ไม่พบผลการค้นหา
เครือรพ.กรุงเทพ ครบ50แห่งในปี 2559
สยามฟิวเจอร์ฯ ล้มโครงการเมกะบางใหญ่แล้ว
แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ลุยเปิดเทอมินัล 21 พัทยา-โคราช
ลุ้นประมูลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกรอบใหม่ พ.ย.นี้
นมไทย-เดนมาร์ค ปรับแคมเปญดันยอดขายโชห่วย
เทสโก้ ขาย 'โฮมพลัส' เกาหลีใต้ 6 พันล้านดอลลาร์
แกรมมี่รุกหนัก โฟกัสทีวีดิจิตอลเต็มสูบ
เซ็นทาราตั้งเป้าขยายโรงแรม 130 แห่งภายใน 5 ปี
อสมท.ตั้งเป้ารายได้ปี 2559 4,200 ล้านบาท
คิวเฮ้าส์ เปิด 27 โครงการใหม่ปี 59 3 หมื่นล้านบาท
'เบสท์เวสเทิร์น'มั่นใจขยายโรงแรมทั่วอาเซียน
HTC ตกชั้น 50 บริษัทใหญ่ในไต้หวัน
S&Pคาดรายได้ลด10% หันไปเจาะกลุ่มวัยรุ่นเพิ่มขึ้น
CPLAND ลงทุน 10,000 ล้าน ขยายอสังหาฯ 3 ปี
ทีซีซี ขยายธุรกิจค้าปลีกเต็มสูบ
บางกอกแอร์เวย์ ตั้งเป้ารายได้ปี 58 โต 20%
กูลิโกะป๊อกกี้ ปรับสูตรใหม่รอบ 50 ปี
SC ASSET คาดรายได้ไตรมาส 2/58 โต 30-40%
ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ฯ เตรียมปล่อยสินเชื่อเพิ่ม หลังธนาคารเข้มงวด
กลุ่มแอคคอร์ ลุยเปิดโรงแรมใหม่ 13 แห่ง
'หมอเสริฐ' ลุยซื้อโรงพยาบาลให้ได้ 50 แห่งปีนี้
Apr 20, 2015 00:25

เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ทุ่มงบลงทุน  7,000 ล้านบาท ซื้อกิจการโรงพยาบาลเพิ่มให้ได้ตามเป้า  50 แห่งในปีนี้  พร้อมระบุกฎอัยการศึกไม่ส่งผลกระทบต่อลูกค้าต่างชาติ โดยพบว่า ยังใช้บริการเหมือนเดิม

นายปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เจ้าของโรงพยาบาลกรุงเทพ เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทได้วางงบลงทุน 6,000-7,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12% จากรายได้ทั้งหมด ที่คาดว่าจะทำได้ในปีนี้กว่า 60,000 ล้านบาท เพื่อซื้อกิจการโรงพยาบาลและสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ ตามเป้าหมายที่บริษัทได้วางไว้ว่าในปีนี้จะมีโรงพยาบาลทั้งหมด 50 แห่ง จากปัจจุบันมีอยู่ 43 แห่ง และอยู่ระหว่างก่อสร้าง 3 แห่ง ประกอบด้วยโรงพยาบาลเปาโล-รังสิต โรงพยาบาลสมิติเวช ชลบุรี และโรงพยาบาลหาดจอมเทียน-พัทยา ส่วนแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัท การกู้ยืมจากสถาบันการเงินหรือการใช้เครื่องมือทางการเงินอื่นๆ

การซื้อกิจการโรงพยาบาล สามารถสร้างกำไรได้ทันที แต่หลังจากนั้น 2-3 ปีจะต้องมีการลงทุนเพื่อปรับปรุง เนื่องจากโรงพยาบาลที่เปิดดำเนินการมาแล้วเป็นเวลานานจะต้องมีการปรับปรุงเป็นเรื่องปกติ ส่วนการลงทุนเพื่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่นั้น ในช่วง 2-3 ปีแรกจะต้องแบกรับผลขาดทุนจากการดำเนินงาน แต่ข้อดีก็คือไม่ต้องมีการปรับปรุงอีก สำหรับแนวโน้มการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 1 ปีนี้คาดว่าจะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากมีชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการมากขึ้นในสัดส่วนถึง 60% และผู้ป่วยในประเทศ 40%  

ส่วนของการประกาศกฎอัยการศึกที่ผ่านมาไม่กระทบมาก เพราะคนไข้ต่างชาติยังเดินทางมารักษาตามปกติ โดยปัจจุบันบริษัทต่างชาติที่มาใช้บริการเป็นอันดับหนึ่งคือ ญี่ปุ่นรองลงมาเป็นพม่า อังกฤษ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และออสเตรเลีย

Source
- https://www.youtube.com/watch?v=RYeGQtO5gSI

 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
184Article
76559Video
0Blog