ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายทัั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล รวม 11 คน เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2565 ในระหว่างที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตอบกลางสภาว่าไม่ได้เป็นคนปฏิวัติ และชี้ไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ได้ยกมือรับในสภา ลอยหน้าลอยตาเสมือนว่าการยึดอำนาจมาจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายนั้น
ทั้งนี้ จักรพงษ์ แสงมณี กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การได้เห็นพฤติกรรมที่ ‘นายกรัฐมนตรี’ และ ‘รองนายกรัฐมนตรี’ พูดถึงการรัฐประหาร ใช้อาวุธข่มขู่ยึดอำนาจประชาชน ได้อย่างสนุกสนาน บ่งบอกถึงวุฒิภาวะ และคุณสมบัติที่ขัดต่อการเป็นผู้นำในระบอบประชาธิปไตย ยิ่งทำพฤติกรรมนี้ในสภา ยิ่งทำให้เห็นถึงความไร้จิตสำนึกต่อระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เหลือความชอบธรรมในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป
จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ และรองเลขาธิการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากเป็นเด็กอาจเรียกว่าไร้เดียงสา แต่พลเอกประยุทธ์เป็นถึงผู้บังคับบัญชา ต้องใช้คำว่าไร้จิตสำนึกโดยสิ้นเชิง ที่ผ่านมาการกระทำของ พล.อ.ประยุทธืได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศ นั่งบนซากปลักหักพังของเศรษฐกิจขนาดนี้ ท่วมจมด้วยน้ำตาของคนทั้งชาติขนาดนี้ เหตุใดจึงกล้ามีหน้ามาเหยียบย่ำความรู้สึกคนไทยได้ขนาดนี้ การหัวเราะล้อเล่นกลางสภาในการยึดอำนาจในฐานะผู้นำรัฐประหาร ถือเป็นการเย้ยหยันและเหยียบย่ำความรู้สึกคนไทยเป็นอย่างยิ่ง
ด้าน กฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การกระทำของพบเอกประยุทธ์ หากแสดงถึงความไม่เคารพสภา ตนเองไม่แปลกใจ แต่หากยังมองว่าการปฏิวัติเป็นเรื่องเล่นๆ อาจจะใกล้จะถึงเวลาของพล.อ.ประยุทธ์แล้ว เวลาที่ประชาชนจะตัดสินว่า ประเทศนี้ สภานี้ ยังจะเหลือที่ให้พล.อ.ประยุทธ์ยืนหรือไม่
ภาควัต ศรีสุรพล ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สิ่งที่เลวร้ายที่สุด คือ พล.อ.ประยุทธ์ผู้ก่อการรัฐประหาร ปล้นอำนาจประชาชนคนไทย ยังลอยหน้าลอยตา ภูมิใจในสิ่งที่ตนกระทำ เป็นตลกร้ายและคือฟางเส้นสุดท้าย ที่ตนจะใช้เพื่อโหวตไม่ไว้วางใจ พล.ฮ.ประยุทธ์อีกครั้ง ในฐานะผู้ทำลายระบอบประชาธิปไตยและความสง่างามของรัฐสภา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง