ไม่พบผลการค้นหา
'ชลน่าน' พอใจฝ่ายค้านซักฟอกดีตามเป้า โต้ 'ประยุทธ์' ทำมาแล้ว 8 ปี ไม่สำเร็จเลย ยอมรับเองว่าล้มเหลว ย้ำไม่ได้หาเสียงในสภา แต่ข้อมูลส่งผลต่อการตัดสินใจประชาชนอยู่แล้ว

วันที่ 16 ก.พ. ที่อาคารรัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ประเมินผลการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 เมื่อวานนี้ (15 ก.พ.) โดยระบุว่า ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายค้าน แต่เมื่อวานเราได้นำเอาข้อเท็จจริงและสภาพปัญหามาอภิปรายได้ทั้งหมด โดยภาพรวมทุกพรรคการเมืองทำหน้าที่ได้บรรลุเป้าหมาย หลายเรื่องสามารถนำมาอภิปรายตามมาตรา 151 แบบลงมติได้เลย เป็นหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องไปดูว่าข้อเท็จจริงที่ได้เปิดเผยมานั้นถูกต้องหรือไม่

นพ.ชลน่าน ยังเผยว่า มีหลายประเด็นที่มีหลักฐานชัดว่าสามารถดำเนินการต่อไปทางกฎหมายได้ แต่จะเป็นเมื่อไหร่ก็ต้องดูจังหวะเวลาที่เหมาะสม เช่นเรื่องของ จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปรายนั้น เป็นประเด็นที่เด่นชัดว่ามีการฮั้วประโยชน์กันโดยไม่ชอบ แม้ตัวรัฐมนตรีไม่ได้ทำความผิดเองโดยตรง แต่ความผิดจะอยู่ในเรื่องของจริยธรรม

สำหรับข้อวิจารณ์ของนายกรัฐมนตรี ว่าฝ่ายค้านพูดเรื่องเก่า และใช้โอกาสหาเสียงในสภานั้น นพ.ชลน่าน ย้ำว่า ฝ่ายค้านพูดข้อเท็จจริงคือสิ่งที่ปรากฏขึ้นแล้ว หากยังไม่ปรากฏแล้วเรานำมาพูด ก็ต้องชี้ให้เห็น แต่ประเด็นปัญหาที่นำเสนอมา ล้วนเป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏแล้วทั้งสิ้น ส่วนรัฐบาลจะจัดการเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการของตัวเองอย่างไร ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเก่าเรื่องใหม่เลย

"และจะเป็นการหาเสียงหรือไม่ ก็ต้องยอมรับว่าข้อมูลที่นำเสนอย่อมส่งผลต่อการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนในการเลือกตั้งแน่นอน เราไม่ต้องหาเสียงเลย เพียงนำข้อเท็จจริงมาเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจเท่านั้น"

เมื่อถามถึงกรณีลำดับการอภิปรายของ รังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ซึ่งเลื่อนไปอภิปรายในเวลาดึกคือ 22.00 น. นั้น นพ.ชลน่าน ชี้แจงว่า หัวข้อการอภิปรายที่สำคัญ ต้องหาจังหวะเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากจังหวะเวลาที่ รังสิมันต์ จะได้อภิปรายคาบเกี่ยวกับข่าวช่วง 20.00 น. เพื่อไม่ให้ประเด็นตกหล่นไป จึงต้องแก้ปัญหากันโดยการขยับลำดับการอภิปรายลงไป แม้จะดึกหน่อยก็สามารถสื่อสารได้ครบถ้วน

เมื่อถามถึงคำชี้แจงของนายกรัฐมนตรี นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่อยากวิจารณ์คำตอบของท่าน หากจะบอกว่าฝ่ายค้านอภิปรายเรื่องเดิม ตนเห็นว่าคำตอบของนายกฯ ต่างหากที่เดิมๆ จะใช้ข้ออ้างว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของครอบครัวไม่ได้ เพราะมีความผูกโยงกับการบริหารราชการ และอำนาจหน้าที่ของรัฐบาล 

"ท่านนายกฯ บอกว่า สิ่งที่คุณพูดมาผมทำหมดแล้ว 8 ปี แต่ไม่เป็นผล ท่านพูดเอง ยอมรับเองทำแล้ว ไม่มีผลก็คือล้มเหลว ฝ่ายตรวจสอบจึงเอามาพูด ถ้าคุณทำไม่สำเร็จ แล้วคุณยังอาสาทำต่ออีกหรือ" นพ.ชลน่าน กล่าว