ไม่พบผลการค้นหา
รองเลขาฯ กกต. แจง พปชร. ขึ้นรูป ‘ประยุทธ์’ หาเสียงได้หลังเสนอต่อชื่อแคนดิเดตนายกฯต่อ กกต. ขณะที่ ‘ประยุทธ์’ ยังออกทีวี-ครม.สัญจร ได้ตามปกติ มองผู้สมัคร ส.ส. เปลี่ยนชื่อเป็น 'ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์' เป็นสีสันการเลือกตั้ง

นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ รองเลขาธิการ กกต. กล่าวถึงสถานภาพ 58 พรรคการเมือง ที่นำสมาชิกไปลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคการเมืองเมื่อวานนี้ (4 ก.พ.) ว่า ยังจะต้องรอการตรวจสอบสถานภาพของพรรคการเมืองก่อน หากพบว่ามีพรรคการเมือง ที่ขาดคุณสมบัติไปยื่นสมัครเลือกตั้ง ก็จะทำให้การสมัครลงเลือกตั้งของผู้สมัครไม่สมบูรณ์เสมือนไม่เคยมีการสมัครมาก่อน ส่วนค่าสมัคร 5,000 บาทก็จะตกเป็นของแผ่นดิน 

ส่วนผู้สมัครกว่า 5,900 คนนั้น รองเลขาธิการ ระบุว่า ขณะนี้ได้ส่งรายชื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว คาดว่า ในวันที่ 9 ก.พ. นี้ จะมีความชัดเจน ถ้าผู้สมัครคนใดถูกพิจารณาว่าขาดคุณสมบัติ ก็สามารถยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาได้ 

นายณัฏฐ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐเตรียมนำภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาใช้ในการหาเสียงหาก พล.อ.ประยุทธ์ ตอบรับเป็นรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรค โดยชี้แจงว่า สามารถทำได้หลังพรรคพลังประชารัฐ ยื่นรายชื่อเสนอต่อ กกต. แล้ว

ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐสามารถใช้ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ไปหาเสียงได้ แต่ตัวพล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถไปร่วมกิจกรรมของพรรคได้ จะทำให้เกิดการลักลั่นหรือไม่นั้น รองเลขาธิการ กกต. เห็นว่า เป็นเรื่องของความรู้สึก เพราะในทางกฎหมาย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่เป็นจำต้องเป็นสมาชิกพรรค และไม่ใช่หน้าที่ที่ กกต. จะต้องพิจารณา จนกว่าจะมีผู้ยื่นร้องเรียน เช่นเดียวกับการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีนั้น นายณัฏฐ์ เห็นว่า การเป็นแคนดิเดตนายก ไม่ควรจะกระทบต่อวิชาชีพของผู้ที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมือง ส่วนการออกรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้น ก็ไม่สามารถตอบได้ ส่วนกรณีที่นโยบายของพรรคพลังประชารัฐ กับรัฐบาลมีความใกล้เคียงกันจะต้องมีการตรวจสอบหรือไม่นั้น นายณัฏฐ์ ระบุว่า จะตรวจสอบได้ ก็ต่อเมื่อมีผู้ร้องเรียน ซึ่ง กกต. ก็พร้อมพิจารณา ขอสื่อมวลชนอย่าวิตกไป 

“เป็นเรื่องของความรู้สึก กฎหมาย ก็คือเรื่องของกฎหมาย ขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน” นายณัฏฐ์

นอกจากนี้ นายณัฏฐ์ ยังกล่าวถึงกรณีผู้สมัครของพรรคเพื่อชาติ เปลี่ยนชื่อเป็น ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ ในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่สามารถเปลี่ยนชื่อได้ ตนมองว่าเป็นสีสันของการเลือกตั้งมากกว่า ไม่กระทบกับการเลือกตั้งแต่อย่างใด

ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัคร ส.ส. กทม. 22 เขต และไทยรักษาชาติส่งผู้สมัคร ส.ส. กทม. 8 เขต จะถือเป็นการสมยอมกันหรือไม่ นายณัฏฐ์ กล่าวว่าควรมองข้อเท็จจริง ไม่ควรเอาเหตุผลของตัวเองใส่เข้าไป หากมีปัญหาและมีผู้มาร้องเรียนก็ปล่อยให้เป็นการพิจารณาของ กกต. ก่อน ตนไม่สามารถตัดสินได้

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ทีมกฎหมายพรรคอนาคตใหม่, พรรคเพื่อไทย, พรรคไทยรักษาชาติ, พรรคเสรีรวมไทย, และพรรคพลังธรรมใหม่ มายื่นรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ

“วิษณุ”ระบุ ผู้สมัครส.ส.แห่เปลี่ยนชื่อ”ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ไม่ผิด เป็นเทคนิคแต่ละคน 

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมครม.ผู้สมัครส.สของพรรคเพื่อชาติ เปลี่ยนชื่อเป็น "ทักษิณ และยิ่งลักษณ์" ซึ่งคล้ายกับนายทักษิณชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า มองว่าไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร เขาตัดสินใจกันเองที่เปลี่ยนชื่อ ส่วนที่ทั้งสองเป็นชื่อของผู้ที่ถูกดำเนินคดีจะมีปัญหาหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ไม่เป็นอะไร เพราะทุกคนสามารถเปลี่ยนชื่อกันได้ ถ้าคิดว่าเปลี่ยนแล้วดีก็เปลี่ยนไป จะเอาทุกทางทุกเทคนิคก็ไม่เป็นอะไร เรื่องนี้เป็นความเห็นส่วนตัว ต้องไปถาม กกต.เพราะเห็นเลขาฯกกต.จะไปศึกษาเรื่องนี้ เพราะไม่เคยพบ