วันที่ 22 ก.ย. 2565 นพ.โอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย แม้จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง รวมทั้งรัฐบาลเตรียมประกาศให้ ไวรัสโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งการประกาศดังกล่าวปราศจากมาตรการรองรับ ทั้งยารักษาโรคที่เข้าถึงยาก รวมทั้งขาดการให้ความรู้ความเข้าใจกับการป้องกันตัวเอง อาจจะส่งผลให้โควิด-19 กลับมาระบาดได้อีกครั้ง

ที่น่าเป็นห่วงคือเชื้อไวรัสยังคงมีการปรับตัวไปเรื่อยๆ ล่าสุดมีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด สายพันธุ์ BA.2.75 ที่กำลังระบาดอยู่ในยุโรปและเอเชีย ซึ่งเชื้อสายพันธุ์ใหม่นี้สามารถที่จะหลบหลีกภูมิต้านทานทุกชนิดได้ ส่งผลให้คนที่เคยฉีดวัคซีนและคนที่เคยติดเชื้อมาก่อนหน้านี้ กลับมาติดเชื้ออีกครั้งได้ เพราะทางการแพทย์ยังไม่พบวิธีหยุดยั้งไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ๆที่มาเป็นระลอกๆ ได้ 

นพ.โอชิษฐ์ กล่าวด้วยว่า อยากเตือนว่าระบบสาธารณสุขต้องไม่ประมาท ต้องเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ โดยหลักทางการแพทย์คือต้องป้องกัน หน่วยงานทางการแพทย์ต้องคอยเตือนประชาชน ให้ป้องกันอยู่สม่ำเสมอ ไม่หย่อนจนเกินไป เพราะคนที่ติดแล้วก็สามารถกลับมาติดใหม่ได้ หมั่นดูแลสุขภาพตัวเอง กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมแมสก์ (หน้ากากอนามัย) เว้นระยะห่าง ยังคงต้องมีต่อไป เพราะในอนาคตก็อาจจะมีไวรัสสายพันธุ์ใหม่ตัวใหม่เกิดขึ้น 

“น่าเสียดายที่ระบบสาธารณสุขอ่อนแอ ทั้งนี้ในอดีต ไทยมีระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็งเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ปัจจุบันขาดการสนับสนุนจากรัฐบาล ทำให้เกิดปัญหาและไม่ได้รับการเชื่อถือเท่าที่ควร ดังนั้นหากมีโอกาส พรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะพัฒนาระบบการเชื่อมโยงระบบสาธารณสุข นำระบบเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนการทำงานระหว่างท้องถิ่นกับส่วนกลาง การพัฒนาระบบเทเลเมดีซีน หากประสบความสำเร็จสามารถที่จะพัฒนา ขึ้นมาเพื่อรองรับการเป็นเมดิเคิลฮับ สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวหรือกลุ่มผู้รักสุขภาพจากทั่วโลก จะช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศไทยด้วย” นพ.โอชิษฐ์ กล่าว