ไม่พบผลการค้นหา
ศาล ยกฟ้อง 'วรงค์' หมิ่นประมาท 'ก้าวไกล ชี้แสดงความเห็นโดยสุจริตตามรัฐธรรมนูญ

วันที่ 28 มิ.ย. เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี พร้อมทนายความ เดินทางมายังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาในคดีที่พรรคก้าวไกลเป็นโจทก์ฟ้อง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328 พร้อมเรียกค่าเสียหาย 24 ล้านบาท จากกรณีที่ได้ไลฟ์ในเฟซบุ๊กชื่อ "Warong Decgitvigrom "ในการแถลงข่าวการจัดตั้งพรรคไทยภักดี เมื่อวันที่ ระหว่างวันที่ 20 ม.ค.64 ถึงวันที่ 3 ก.พ.64 โดยมีการใส่ร้ายโจทก์ว่า จงใจจาบจ้วงสถาบัน ร่วมกับพรรคการเมืองและกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อล้มล้างสถาบัน มีการกล่าวหาว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกล อยู่เบื้องหลังการล้มล้างสถาบันเบื้องสูง และยกเลิกมาตรา 112 ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดพร้อมเรียกค่าเสียหายจำนวนดังกล่าว

โดย นพ.วรงค์กล่าวก่อนเข้าฟังคำพิพากษาว่าไม่มีความกังวลใจ เพราะเชื่อมั่นในสิ่งที่เราตั้งใจ ฉะนั้นทุกอย่างอยู่ที่คำตัดสินของศาล และคาดว่าศาลจะใช้เวลาพิจารณาอ่านคำพิพากษาไม่นาน เดี๋ยวก็รู้ว่าหมู่หรือจ่า โดยในคดีนี้ได้มีการนัดสืบพยานไปแล้วเมื่อช่วงต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา

สำหรับคดีนี้ศาลไต่สวนมูลฟ้องโจทก์แล้ว เห็นว่า ฟ้องโจทก์มีมูลให้ประทับฟ้องคดีไว้พิจารณา ซึ่ง นพ.วรงค์ ปฏิเสธต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัว ก่อนมารับฟังศาลพิพากษาในวันนี้ 

เมื่อถึงเวลาศาลได้พิเคราะห์​พยานหลักฐาน​ ตลอดจนคำให้การ​ของคู่ความ​ทั้ง 2 ฝ่ายแล้วเห็นว่า การกระทำ​ของจำเลย เป็นการแสดงความเห็นโดยสุจริต และ เป็นไปตามติดตามรัฐธรรมนูญเพื่อปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จึงไม่มีความผิดตามฟ้องและไม่ละเมิดตามคดีแพ่ง จึงพิพากษา​ยกฟ้อง​ 

ภายหลังศาล​พิพากษา นายแพทย์วรงค์​ กล่าวว่า หากโจทย์จะยื่นอุทธรณ์ก็ไม่รู้สึกกังวลเพราะตนได้ทำหน้าที่ปกป้องสถาบัน และ จะไม่ฟ้องกลับคู่กรณีเพราะไม่ชอบค้าความกับใคร อีกทั้งตนไม่ได้ขัดแย้งกับตาก้าวไกลเป็นการส่วนตัว แต่ขัดแย้งกันทางความคิดและอุดมการณ์เท่านั้น ดังนั้นจะไม่เสียเวลามาฟ้องกับเรื่องเล็กน้อย ส่วนคู่กรณีจะฟ้องตนก็ขอให้ประชาชนเป็นผู้พิจารณาว่าใคร ใจกว้างกว่ากัน

ส่วนคดีที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ฟ้องตนในกรณีเดียวกัน ต้นเชื่อว่าศาลจะยกฟ้องเช่นเดียวกัน