สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในวันพุธที่ 24 มกราคมว่า อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มหาเธร์ โมฮัมหมัด ซึ่งประกาศชิงเก้าอี้ผู้นำประเทศอีกครั้งในการเลือกตั้งในเดือนสิงหาคมศกนี้ กำลังเร่งเรียกคะแนนนิยมจากคนในวัย 20-30 ปีซึ่งเป็นผู้มีสิทธิ์ออกเสียงกลุ่มใหญ่ที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคการเมืองใด

รอยเตอร์บอกว่า มหาเธร์กำลังสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับตนเอง โดยลบภาพผู้นำอำนาจนิยมที่ปกครองมาเลเซียยาวนานกว่า 2 ทศวรรษ และชูภาพความเป็นผู้มีประสบการณ์สูงในการบริหารประเทศ

การหาเสียงในหมู่คนหนุ่มสาวของมหาเธร์เน้นใช้สื่อใหม่อย่างทวิตเตอร์ โดยเน้นโพสต์ภาพเซลฟีและภาพผู้คนแสดงความชื่นชมในตัวเขา รวมถึงภาพเขากับภรรยาไปชมภาพยนตร์ ‘Star Wars: The Last Jedi’ ซึ่งผู้ใช้สื่อพากันทวีตต่อจนเป็นไวรัล โดยมียอดรีทวีต 8,500 ครั้ง และยอดกดไลค์ 15,000 ครั้ง

จำนวนผู้ติดตามทวิตเตอร์ของมหาเธร์ เพิ่มขึ้นจากจำนวน 15,000 คนเมื่อต้นปีที่แล้วเป็นกว่า 300,000 คนในปัจจุบัน

ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ มหาเธร์ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในนามกลุ่มพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อเบียดขับนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค กับกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาล บาริซัน เนชันแนล เขาให้คำมั่นว่า หากชนะเลือกตั้ง เขาจะขออภัยโทษให้แก่อดีตคู่ปรับ อันวาร์ อิบราฮิม แกนนำฝ่ายค้าน ซึ่งกำลังถูกจำคุกในข้อหาร่วมเพศทางทวารหนัก

พรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอชื่อนางวัน อาซีซะห์ วัน อิสมาอิล ภรรยาของนายอันวาร์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี มหาเธร์ประกาศว่า หากนายอันวาร์ได้รับอภัยโทษ ตัวเองจะหลีกทางให้เขาขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี

ฝ่ายค้านจำเป็นต้องอาศัยฐานเสียงของมหาเธร์ในเขตชนบท และในกลุ่มคนหนุ่มสาว ซึ่งกลุ่มพรรคฝ่ายค้านไม่สามารถเรียกคะแนนนิยมจากผู้ออกเสียงเลือกตั้งทั้งสองกลุ่มนี้ได้

เวลานี้ มหาเธร์กำลังสร้างภาพตนเองเป็นคนรุ่นพ่อที่สละตนเองจากการพักผ่อนในวัยชรา อาสาเข้ามาแก้ไขความผิดพลาดต่างๆ ของนายนาจิบ ซึ่งถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินกองทุนของรัฐบาล

อาดิบ ซาลกัปลี นักวิเคราะห์ของบริษัทวิจัยความเสี่ยง เฟรียน แอนด์ พาร์ทเนอร์ บอกว่า มหาเธร์สร้างภาพลักษณ์ใหม่ของตัวเองได้ดี คนรุ่นใหม่โดยเฉพาะพวกที่มีอายุต่ำกว่า 30 ลงไป ไม่มีภาพจำเกี่ยวกับความบาดหมางระหว่างเขากับนายอันวาร์ หรือสไตล์เผด็จการของเขา

ซัยยิด ซอดิก ซัยยิด อับดุล เราะห์มาน หัวหน้ากลุ่มยุวชนของพรรคของมหาเธร์ อายุ 25 ปี ผู้ดูแลสื่อโซเชียลมีเดียของเขา บอกว่า มหาเธร์ใช้ทวิตเตอร์สื่อสารกับคนรุ่นที่เกิดในช่วงค.ศ.2000 และใช้เฟซบุ๊กคุยกับคนวัย 30-40 ปี

ตัวเลขของเมอร์เดกา เซ็นเตอร์ สำนักทำโพลอิสระ ระบุว่า ในช่วงปี 2013-2017 มีผู้ลงทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งรายใหม่ประมาณ 2 ล้านคน จำนวนมากมีอายุในช่วง 21-30 และคนในช่วงอายุ 21-40 มีสัดส่วนร้อยละ 42 ของผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด 14.6 ล้านคน

เมอร์เดกา เซ็นเตอร์ สำรวจพบว่า คนในช่วงวัย 21-30 ปี ราวร้อยละ 70 ไม่สนใจการเมือง คนกลุ่มนี้สนใจเรื่องเงินเฟ้อ ฐานะความเป็นอยู่ของตนเอง และการต่อต้านคอร์รัปชั่น

คนรุ่นใหม่รู้จักมหาเธร์ในฐานะ 'บิดาแห่งการสร้างความทันสมัย' ผู้นำอุตสาหกรรมไฮ-เทคมาแทนที่สวนยางสวนปาล์มและเหมืองแร่