ไม่พบผลการค้นหา
DSI ชี้แจง การปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เป็นภารกิจตามกฎหมาย ส่วนงานคดีอื่นก็มีการขับเคลื่อน หลังมีสื่อบางสำนักแสดงความคิดเห็นว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของดีเอสไอหรือไม่ กรณีจับกุมแก้วน้ำปลอมเครื่องหมายการค้า

ตามที่มีรายงานข่าวเกี่ยวกับการจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กรณีแก้วน้ำปลอมเครื่องหมายการค้าและละเมิดลิขสิทธิ์ เมื่อสุดสัปดาห์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมกับมีการแสดงความเห็นว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือไม่ และเสนอแนะว่า กรมฯ ควรไปทำการสอบสวนคดีพิเศษอื่นๆ นั้น

กรมสอบสวนคดีพิเศษขอชี้แจงว่า การกระทำความผิดอาญาเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา อันประกอบด้วย ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร และเครื่องหมายการค้า เป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทยที่มีความรุนแรงต่อเนื่องยาวนาน ส่งผลให้ประเทศไทยตกเป็นประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) ของประเทศสหรัฐอเมริกา และมีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ทางการค้าของประเทศในด้านต่างๆ

ต่อมา เมื่อมีการจัดตั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ได้กำหนดให้ความผิดในเรื่องดังกล่าว ที่มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจและการคลังของประเทศ หรือที่กระทำเป็นลักษณะอาชญากรรมข้ามชาติ องค์กรอาชญากรรม รวมถึงที่มีผู้มีอิทธิพลที่สำคัญอยู่เบื้องหลังการกระทำผิดเป็นคดีพิเศษ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้เข้าร่วมเป็นคณะอนุกรรมการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของคณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีการปราบปรามจับกุมการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่เป็นคดีพิเศษอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับองค์กรเอกชนหลายองค์กร รวมถึงผู้แทนผู้เสียหายทั้งในและต่างประเทศ จนเมื่อ พ.ศ. 2560 ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ปลดประเทศไทยพ้นจากประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) เป็นประเทศที่ต้องจับตามอง (WL) ทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์หลายประการเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการให้ความสำคัญในการป้องกันและปราบปรามความผิดประเภทนี้อย่างต่อเนื่องของทุกฝ่าย

นอกจากนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ซึ่งในการปราบปรามจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาตามที่เป็นข่าว มีมูลค่าความเสียหาย หากคำนวณตามมูลค่าสินค้าแท้ เป็นเงินกว่า 60 ล้านบาท จึงอยู่ในข่ายที่กรมสอบสวนคดีพิเศษต้องดำเนินการตามกฎหมาย

สำหรับประเด็นข้อเสนอแนะที่ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเร่งทำคดีพิเศษอื่นๆ นั้น กรมสอบสวนคดีพิเศษระบุว่า กรมมีการเร่งรัดดำเนินการในทุกคดี โดยมีคณะกรรมการระดับกรมกำกับติดตาม และต้องรายงานข้อมูลด้านคดีต่อคณะกรรมการคดีพิเศษด้วย เพียงแต่ที่ผ่านมากรมไม่ได้มีการเสนอข่าวต่อสาธารณชน ซึ่งนับจนถึงปัจจุบัน กรมสอบสวนคดีพิเศษมีการสืบสวนคดีพิเศษเสร็จสิ้นไปแล้วกว่า 2,500 คดี


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง