ไม่พบผลการค้นหา
ผู้นำสหรัฐฯยืนยันว่าอดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงไม่ได้ทำผิดกฎหมาย หลังเจ้าตัวออกมายอมรับว่า โกหกเอฟบีไอเกี่ยวกับการไปพบทูตรัสเซียก่อนโดนัลด์ ทรัมป์ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯทวีตข้อความยืนยันว่านายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของรัฐบาลนายโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้กระทำการใดที่เป็นสิ่งผิดกฎหมายเลย ขณะที่นายฟลินน์ทำหน้าที่เป็นหนึ่งในคณะทำงานการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลจากนายบารัก โอบามา มาเป็นนายทรัมป์ เมื่อช่วงปลายปี 2016 และนายทรัมป์ก็ยืนยันในทวิตเตอร์ส่วนตัวว่าไม่มีอะไรต้องต้องปิดบังสาธารณชนในเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่าที่เขาไล่นายฟลินน์ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคง เป็นเพราะเขาโกหกรองประธานาธิบดีและเอฟบีไอ

ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นายฟลินน์ยอมรับต่อศาลที่กรุงวอชิงตันว่า เขาให้การเท็จกับสำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ เกี่ยวกับการเข้าพบนายเซอร์เก คิสเซลยัก เอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำสหรัฐฯ ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล หลายสัปดาห์ก่อนที่นายทรัมป์จะขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ไม่มีการเปิดเผยว่า ทำไมเขาจึงให้การเท็จ ซึ่งศาลระบุว่า นายฟลินน์จะไม่ถูกดำเนินคดีฐานให้การเท็จ และหลังจากการสารภาพผิดนายฟลินน์ได้กล่าวว่า เขาจะให้ความร่วมมือกับนายโรเบิร์ต มูลเลอร์ อัยการพิเศษในการสอบสวนกรณีที่รัสเซียเข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ

ด้านนายแมทธิว มิลเลอร์ อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมในรัฐบาลของนายบารัก โอบามา ทวีตแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกันว่าเขาแทบไม่อยากจะเชื่อว่านายทรัมป์เพิ่งจะยอมรับผ่านทวิตเตอร์โดยไม่รู้ตัวว่าเขาขัดขวางกระบวนการยุติธรรมด้วยการรับทราบข้อมูลก่อนหน้านี้แล้วว่านายฟลินน์ให้การเท็จกับเอฟบีไอ เกี่ยวกับการเข้าพบเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐฯ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่มีแถลงการณ์ว่านายทรัมป์สั่งให้นายเจมส์ โคมี อดีตผอ. FBI ยุติการสอบสวนกรณีที่นายฟลินน์ถูกกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง เพียง 23 วันหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์