รัฐบาลท้องถิ่นในหลายๆรัฐในเขต Mid-West ทางตะวันตกของสหรัฐฯประกาศเตือนประชาชนถึงภัยหนาวจากสภาวะอากาศหนาวเย็นสุดขั้วที่มาจากลมขั้วโลก (Polar Vortex) อาจส่งผลให้ในบางพื้นที่มีอุณภูมิต่ำสุดถึง -53 องศาเซลเซียส
หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ ออกมาเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการอยู่นอกอาคารสถานที่ เนื่องจากลมหนาวครั้งนี้มีความรุนแรงและส่งผลให้ผิวหนัง อาจถูกทำร้ายจากความหนาวเย็นได้ภายใน 10 นาที จากอาการน้ำเเข็งกัด
ขณะที่หน่วยงานอุตนิยมวิทยาของรัฐไอโอวา ออกมาเตือนประชาชนให้ระวังการอยู่ข้างนอกอาคาร โดยเฉพาะการหายใจและการพูดคุยในที่สาธารณะซึ่งอาจทำให้ได้รับความหนาวเย็นเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย มีการคาดการณ์ว่าประชาชนกว่า 55 ล้านคนจะได้รับผลกระทบจากภัยหนาวที่รุนแรงในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คนจากอากาศหนาวเย็นในครั้งนี้
จอห์น กากัน นักอุตุนิยมวิทยาของหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวว่า "ภัยหนาวครั้งนี้ อาจเรียกได้ว่า หนาวที่สุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงเจเนอเรชั่นนี้"
ทางด้านประธานาธิบโดนัลด์ ทรัมป์ ทวิตผ่านบัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัวออกมาเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการออกนอกอาคาร และยังเสียดสีถึงสถานการณ์ภาวะโลกร้อนด้วยเช่นกัน
ขณะที่หน่วยงานภาคพื้นสมุทรและชั้นบรรยากาศของหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาสหรัฐฯระบุว่า ภาวะลมหนาวที่ปกคลุมทางตะวันตกของสหรัฐฯในครั้งนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อน ตามที่ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุในทวิตเตอร์ส่วนตัว
นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำหลายคนระบุว่า สภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงนั้นเกิดจากพฤติกรรมของมนุษย์เป็นหลักและสามารถนำมาสู่ภัยหนาวที่รุนแรงเช่นนี้ได้ อย่างไรก็ตามลมหนาวในครั้งนี้เกิดขึ้นจาก สภาพอากาศที่หนาวจัดส่งผลให้ประชาชนหลายรายถูกปล้นเสื้อกันหนาว เนื่องจากราคาเสื้อโค้ทกันหนาวพุ่งสูงถึง 1,100 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 35,000 บาท ขณะที่โรงเรียนและบริษัทต่างๆในเขต Mid-West กว่า 1,000 แห่งต่างประกาศปิดทำการ และเมื่อวันอังคารที่ผ่านมามีการยกเลิกเที่ยวบินกว่า 1,100 เที่ยวบินที่เข้าออกสหรัฐฯ รวมไปถึงมีการยกเลิกการแข่งขันซูเปอร์โบลว์ในมลรัฐแอตแลนตาด้วยเช่นกัน
