วันที่ 26 เมษายน 2566 พรรคเพื่อไทย ได้จัดอบรมผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ เพื่อปรับกลยุทธ์การหาเสียง นำโดย แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (ผ่านระบบออนไลน์), ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีต รมว.อุตสาหกรรม
สมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีต รมว.ยุติธรรม, เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช แกนนำพรรค และ พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. โดยมีผู้สมัคร ส.ส.เข้าร่วมอย่างคึกคักกว่า 200 คน อาทิ ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร, สมคิด เชื้อคง, ชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ
โดย แพทองธาร กล่าวว่า อยากให้ว่าที่ ส.ส.ทุกคน เข้าสภาทั้งหมด วันนี้เลยมาให้กำลังใจ พร้อมขอขอบคุณที่ทุกคนยังอยู่กับพรรค เพื่อช่วยกันเปลี่ยนแปลงให้พี่น้องประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยขณะนี้โพลของพรรคเพื่อไทยดีมาก ก็ทำให้ทุกคนมีกำลังใจ แต่ก็ไม่อยากให้ประมาท เพราะอีกกว่า 20 วัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ จึงขอให้ทุกคนเร่งลงพื้นที่นำเสนอนโยบายกับพี่น้องประชาชน
พร้อมไม่ต้องกังวลพรรคคู่แข่ง เนื่องจากเขาไม่มีศักยภาพเหมือนเรา จึงเล่นแต่ในโซเชียลมีเดีย ทำให้โพลบางสำนักขยับขึ้น ดังนั้นในช่วงใกล้โค้งสุดท้ายผู้สมัครทุกคน ก็ต้องเน้นใช้โซเชียลฯสื่อสารกับพี่น้องประชาชนให้มากยิ่งขึ้น เพื่อทำให้ทุกคนรู้ว่า พรรคเพื่อไทย มีศักยภาพเปลี่ยนแปลงคนทั้งประเทศได้
ขณะที่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า จากโพลที่บางพรรคการเมืองขยับขึ้นนั้น ตนมองว่า พรรคเพื่อไทย มียุทธศาสตร์ที่ชนะได้คือ พื้นที่เนื่องจากเราแข็งในพื้นที่กว่ามาก จึงขอให้ผู้สมัครทุกคนไม่ต้องกังวล แต่ก็ขอให้เพิ่มพื้นที่ในโซเชียลมีเดียให้มากขึ้น เพื่อสื่อสารนโยบายของพรรคกับพี่น้องประชาชน
โดยตนดูแววตาผู้สมัครวันนี้แล้ว มีความมั่นใจมากว่า จะได้ผู้แทนเข้าสภาจำนวนมาก พร้อมเน้นย้ำ ให้ผู้สมัครทุกคนช่วยสังเกตุการณ์การทุจริตเลือกตั้งด้วย เช่น การเก็บบัตรประชาชน รวมถึงการปลอมบัตรเลือกตั้ง ซึ่งหากพบเห็น ขอให้แจ้งมาที่ส่วนกลางของพรรคอย่างเร่งด่วน
สุริยะ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่กับ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ทั่วทุกภาค พบว่า เสียงตอบรับเรื่องนโยบายดีเกินคาด เพราะคิดว่าพี่น้องประชาชนต้องการความเปลี่ยนแปลง ดังนั้นผู้สมัครทุกคน ก็ต้องเร่งลงพื้นที่ให้สม่ำเสมอ โดยลงให้หนักเป็น 2 เท่า เพราะเราจะประมาทไม่ได้ เนื่องจากคู่แข่งของเรามีปัจจัยอื่นช่วยจำนวนมาก จึงต้องสู้ด้วยนโยบาย
ส่วนขณะนี้ เราจะเห็นโพลสำนักต่างๆ บางพรรคการเมืองมาแรงขึ้น แต่จากข้อมูลของเรา พรรคเพื่อไทย ชนะได้ตามเป้า เกิน 250 เสียงแล้ว และจะไปถึงเป้าหมาย 310 เสียง ซึ่งถึงแม้บางพรรคในโซเชียลฯจะมาแรง แต่ก็อย่าไปตกใจ เพราะ ส.ส.แบบแบ่งเขต ยังมาในลำดับที่ 2 โดยพรรคเพื่อไทย ยังชนะอยู่
สมศักดิ์ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าผู้สมัคร 80% ในห้องนี้ เป็น ส.ส.แล้ว แต่จากที่ตนลงพื้นที่ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ ได้เห็นสิ่งที่กังวลคือ พรรคการเมืองอื่นเขาใช้ปัจจัยจำนวนมากสู้ ถึงแม้เขาจะแพ้ในโพล แต่ก็จะทุ่มใส่ ซึ่งถ้าเราเผลอไม่ระมัดระวัง ก็อาจจะโดนแซงได้ ดังนั้นผู้สมัครทุกคน ต้องป้องกันด้วยการทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ทั้งนโยบายของพรรค และประเด็นแลนด์สไลด์ ที่ต้องเลือกทั้งส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ เพื่อให้ชนะเสียง 250 ส.ว.
อย่าปล่อยให้พี่น้องประชาชนหลงเชื่อบางพรรค ที่ให้เลือกบัตรสีเขียวพรรคเพื่อไทย แต่ ส.ส.เขตให้เลือกพรรคเขา ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น พรรคเพื่อไทย จะไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะจะได้แต่ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่มี 100 คนเท่านั้น จึงต้องเร่งทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน
“เราต้องอธิบายเรื่องนี้ให้ติดหูพี่น้องประชาชน ในช่วงใกล้โค้งสุดท้าย พร้อมอธิบายควบคู่กับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ รวมถึงอยากให้ช่วยนำเสนอนโยบายปราบปรามยาเสพติดของพรรคเพื่อไทย ที่ตนได้วางรากฐานไว้อย่างเข้มข้นแล้ว ด้วยการแก้กฎหมายเป็นประมวลกฎหมายยาเสพติด มีผลบังคับใช้ 9 ธ.ค.64 เพื่อเน้นยึดอายัดทรัพย์ของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด ซึ่งจะทำให้พี่น้องประชาชน เห็นภาพว่า พรรคเพื่อไทย สามารถแก้ปัญหายาเสพติดได้” สมศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ ผู้สมัคร ส.ส.ส่วนใหญ่ ได้สะท้อนปัญหาการซื้อเสียงจำนวนมาก ซึ่งบางพื้นที่ มีการเก็บบัตรประชาชน เพื่อให้ไปเลือกตั้งล่วงหน้า จึงเสนอแกนนำพรรค ให้ช่วยเฝ้าจับตาดูการทุจริตอย่างใกล้ชิด ซึ่งแกนนำพรรค ได้ขอให้ผู้สมัครทุกคนที่มีข้อมูลการทุจริต ส่งมาที่ส่วนกลางของพรรค เพื่อรวบรวมดำเนินการต่อไป