ณพลเดช มณีลังกา ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) หมายเลข 4 พรรคเพื่อไทย เขตสัมพันธวงศ์ กล่าวว่าเนื่องในวันปีใหม่ไทย ตนจึงได้นำทีมงานมาไหว้สักการะพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร(พระแก้วมรกต) ปราสาทพระเทพบิดร พร้อมทั้งได้เข้าสักการะศาลหลักเมือง-กรุงเทพฯ พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระกาฬไชยศรี เจ้าพ่อหอกลอง และเจ้าพ่อเจตคุปต์ เพื่อเป็นสิริมงคลตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทยที่ประชาชนจะเข้าวัดทำบุญ ขนทรายเข้าวัด ขอพรผู้ใหญ่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับตนและทีมงานเพื่อคว้าชัยในการเลือกตั้ง ส.ก. ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 22 พ.ค. 65 ที่จะถึงนี้
ณพลเดช กล่าวต่อไปว่า จากที่วันนี้ตนและทีมงานได้เคลื่อนขบวนจากเขตสัมพันธวงศ์ มาถึงวัดพระแก้ว เขตพระนครจากเส้นทางแม้จะใกล้ หากขีดในแผนที่เป็นเส้นตรงก็มีระยะทางเพียงไม่ถึง 1 กิโลเมตร แต่ด้วยเส้นทางถนนเป็นเส้นทาง Oneway และขับขี่ลำบาก ทำให้ต้องใช้เวลามากถึง 15-30 นาทีกว่าจะมาถึงวัดพระแก้ว ด้วยเหตุนี้ตนคิดว่าเป็นเหตุปัจจัยที่สร้างความลำบากให้กับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งความเป็นจริงหากนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างประเทศ เดินทางจากสนามบินมุ่งหน้าสู่วัดพระแก้ว หากเราวางแผนที่จะกระชับเรื่องระยะทางและวางเส้นทางการท่องเที่ยว ระหว่างเขตพระนครและเขตสัมพันธวงศ์ รวมถึงพื้นที่พระนครชั้นใน เราจะได้เม็ดเงินที่เกิดการหมุนที่ได้จากการท่องเที่ยวในระบบได้อีกมาก
สำหรับการมาเยี่ยมชมวัดพระแก้ว ได้เข้าสักการะพระแก้วมรกต อีกสิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวอยากจะไปชมและสักการะคือ พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร ที่วัดไตรมิตรฯ เขตสัมพันธวงศ์ เป็นพระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก และจะมีจุดที่เชื่อมต่อคือ ถนนเยาวราช ตลาดน้อย คลองโอ่งอ่าง เป็นต้น ทั้งนี้หากมีการวางนโยบายที่เชื่อมโยงกันให้ดีดังในต่างประเทศ เช่นจัดลดราคาตั๋วเข้าชมในหลายๆที่เพื่อได้ราคาที่ถูกลง หรือสร้างเส้นทางท่องเที่ยวให้การเดินทางรวดเร็วขึ้น เช่น City Tour ดังในหลายๆประเทศที่เจริญแล้วเขาวางโครงข่ายการท่องเที่ยวเอาไว้ เราจะได้เม็ดเงินที่นักท่องเที่ยวมาจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศได้มากขึ้น เม็ดเงินเหล่านี้ก็จะผันถึงมือผู้ประกอบการรากหญ้าได้โดยตรง อย่างไรก็ตามตนได้บรรจุนโยบายการท่องเที่ยว พระนคร-สัมพันธวงศ์ ในนโยบาย 200 วันไว้ในโบร์ชัวร์ประชาสัมพันธ์ในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ก. ในครั้งนี้