ไม่พบผลการค้นหา
'สนธิญา' ร้องกกต. ตรวจสอบ กรณี 'แพทองธาร' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' ที่ฮ่องกง ชี้อาจเข้าข่ายต้องยุบพรรคเพื่อไทย เผยไม่ร้อง 'ประยุทธ์' หลังเอ่ยปากเป็นแคนดิเดต รทสช.

วันที่ 27 ธ.ค. สนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยื่นร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบพรรคเพื่อไทย จากกรณีที่ แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เดินทางไปพบ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ฮ่องกง รวมถึงได้มีการโพสต์ภาพลงบนอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งอาจเข้าข่ายฐานความผิดให้มีการยุบพรรคเพื่อไทย 

สนธิญา กล่าวว่า ตนมาร้องเพื่อให้ กกต. ไต่สวนวินิจฉัยพิจารณาต่อกรณีนี้โดยเบื้องต้น แม้จะมีหลายท่านที่ตั้งคำถามว่า แพทองธาร กับ ทักษิณ เป็นพ่อลูกกัน ทำไมถึงไม่ออกมาร้องก่อนหน้านี้ นั่นเป็นเพราะ ก่อนหน้านี้ แพทองธาร ยังไม่ได้เป็นประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย รวมถึงไม่ได้เป็นผู้ประกาศนโยบายของพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา 

สนธิญา กล่าวอีกว่า แม้ในเรื่องของสายเลือด แต่กรณีที่ผิดกฎหมายก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการ ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 45 ที่ระบุว่า ห้ามมิให้พรรคการเมือง หรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองกระทำการส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการเป็นการก่อกวนความสงบเรีบร้อยของประชาชน ซึ่งคำว่าศีลธรรมอันดีนี้ แปลว่า หลักแห่งความประพฤติดี

ซึ่งต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา ทักษิณ และยิ่งลักษณ์ เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี และหนีไปอยู่ต่างประเทศ ภายหลังศาลมีคำพิพากษาให้จำคุก 10 ปี และการที่ แพทองธาร มีตำแหน่งเป็นถึงแกนนำ จึงเป็นคนที่อยู่ในตามกฎหมาย รวมถึงการที่ ทักษิณ มาจัดรายการทุกวันอังคารนั้นเป็นการก่อกวนศีลธรรมอันดี และถ้าหาก ทักษิณ บริสุทธิ์ใจ เชื่อมั่นในความสุจริตก็ต้องกลับมาประเทศไทยเพื่อเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย 

สนธิญา เสริมว่า อยากให้ทาง กกต. ร่วมกับ ตม. เพื่อสอบดูว่า มี ส.ส. พรรคเพื่อไทยคนไหนไปฮ่องกงด้วยหรือไม่ และกรณีโลโก้ของพรรคเพื่อไทยที่เขียนด้วยลายมือของทักษิณ จึงเป็นเรื่องให้ กกต. โปรดพิจารณาวินิจฉัยการกระทำทั้งหมดที่กล่าวมา 

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ตนเองเป็นแคนดิเดทนายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติคนเดียว จะถือว่าเข้าข่ายครอบงำพรรคหรือไม่ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค สนธิญา ตอบว่า ตนสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ตลอด แต่ในบางเรื่องก็ไม่เห็นด้วย แต่การกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ จะครอบงำหรือไม่ เป็นหน้าที่ของ กกต. หรือผู้ที่เรียกร้อง และเป็นการดีด้วยซ้ำที่มีคนร้องให้ตรวจสอบ แต่ยืนยันว่าตนจะไม่เป็นผู้ร้อง เพราะไม่ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย 

สนธิญา ยังได้กล่าวถึงการที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลตั้งฉายาให้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า แปดเปื้อน ว่า ตนเคารพสื่อมวลชนตลอด แต่กรณีคำว่า แปดเปื้อน ไม่ใช้แปดเปื้อนเพราะทุจริตคอรัปชั่น แต่แปดเปื้อนเรื่องตีความการดำรงตำแหน่งนายกฯ ครบวาระ 8 ปี แต่ประเด็นนั้นก็จบ และผ่านการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไปแล้ว ซึ่งที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ สุจริต ซื่อสัตย์ โปร่งใส รักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ด้วยความใจจริง