จากกรณีบริษัท มิวสิค บั๊กส์ จำกัด เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนทั่วประเทศ เนื่องจาก นายณพสิน แสงสุวรรณ หรือ หนุ่ม กะลา อายุ 36 ปี นักร้องชื่อดัง นำผลงานเพลง ‘ยาม’ ไปร้องแสดงสดในสถานบันเทิงตามจังหวัดต่างๆ กว่า 44 แห่ง จนถูกบุกจับหลายครั้งที่ไปแสดงคอนเสิร์ต
ล่าสุด 19 มี.ค. นักร้องชื่อดัง ‘หนุ่ม กะลา’ เข้าพบศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง กับคู่กรณี นายชนินทร์ วรากุลนุเคราะห์ กรรมการผู้จัดการบริษัท มิวสิค บั๊กส์ จำกัด หลังมีการยื่นฟ้องคดีละเมิดลิขสิทธิ์เพลง โดยวันนี้เป็นการนัดสอบปากคำให้การจำเลย และนัดฟังคำสั่งศาล รวม 19 คดี จากที่ถูกยื่นฟ้อง 44 คดี
โดยค่าย มิวสิคบั๊กส์ เป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการ ยื่นฟ้อง หนุ่ม กะลา ในความผิด พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ผลตัดสิน คือรอการกำหนดโทษ 1 ปี เนื่องจากไม่เคยทำความผิดมาก่อน และห้ามทำผิดซ้ำ โดย หนุ่ม ยอมรับผิดทุกอย่าง นอกจากนี้ยังเหลืออีกกว่า 20 คดี ที่ต้องมีการฟังคำพิพากษาทั่วประเทศ ซึ่งต้องปล่อยให้ไปตามขึ้นตอนของศาล โดยหนุ่มจะยอมรับผิดทุกคดี
หนุ่ม กะลา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เรื่องผลการตัดสินครั้งนี้ว่า รู้สึกโล่งใจ เพราะได้ต่อสู้มาปีกว่าแล้ว ซึ่งก็เหลืออีกครึ่งหนึ่ง ในส่วนคดีแพ่งที่มีการเรียกร้องค่าเสียหายสำนวนละ 1 ล้านบาทนั้น ไม่ทราบเรื่อง เนื่องจากค่ายเพลงต้นสังกัดเป็นคนเจรจาไกล่เกลี่ย และจัดการ ทราบแต่เพียงคดีอาญาเท่านั้น
“ผมเป็นคนสร้างสรรค์ผลงานเอง แต่งเพลงเอง ผมเคารพสิทธิ์ของเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่เมื่อวันนี้มันผิดพลาด สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผมไม่ทราบจริงๆ อยากเตือนศิลปินว่าเรื่องสิทธิ์ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ยิ่งเราอยู่ในวงการบันเทิง เรายิ่งต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ใครที่ทำไปโดยไม่รู้ อยากจะให้ตรวจสอบให้ดี ให้มองกรณีของผมเป็นตัวอย่าง สุดท้ายนี้ผมขอบคุณแฟนคลับที่คอยให้กำลังใจและสนับสนุนกันมาโดยตลอด ที่ทำให้เราเข้มแข็งและเดินทางมาถึงวันนี้” นายณพสิน กล่าว
ส่วนคดีแพ่งที่ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหาย กรณีละเมิดลิขสิทธิ์เพลงเป็นค่าเสียหายจำนวน 44 ล้านบาท ทางค่ายมิวสิค บั๊กส์ เผยว่าเป็นไปตามความเหมาะสม เนื่องจากเห็นว่าเป็นเพลงดังที่มีมูลค่า และไม่คิดกลั่นแกล้งแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้มีการไกล่เกลี่ยกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพื่อหาทางออกร่วมกันแล้ว พร้อมกันนี้ยังยืนยันว่า มิวสิคบั๊กส์ ยอมถอยมาหลายก้าวแล้ว ส่วนอีกฝั่งจะยอมรับข้อเสนอหรือไม่ ต้องรอนัดไกล่เกลี่ยในวันที่ 18 เม.ย. 62 ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางอีกครั้ง