ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรี เผยประเทศกำลังจะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น ขออย่าคิดแต่เรื่องเดิมๆ แขวะปี 2530 มีคนรวยจากโทรคมนาคม ลั่นพร้อมทุกวันรับมือศึกซักฟอก เตือนอย่าทำให้มีปัญหาเพราะในสภาฯ ใครพูดอะไรก็ได้ โยนถาม 'ไพบูลย์' ปมยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความญัตติ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เยี่ยมชมนิทรรศการ โครงการ BCG เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรีพร้อมระบุว่า ขณะนี้ Boi กำลังหาแนวทางแก้ปัญหา เรื่องเงินทุนสำรองในระบบให้มากขึ้น ทำให้ค่าเงินบาทแข็งขึ้นโดยหากเอาเงินในระบบเข้ามาลงทุนได้บ้างก็จะดี เพราะวันนี้ปัญหาคือมีการเงินที่แข็งแกร่งเกินไป มีเงินทุนสำรองเยอะและมีเงินสะพัดเดินยกยกสูง ต้องพยายามแก้ไขปัญหาให้ถูกวิธี ซึ่งเศรษฐกิจ BCG ที่เกิดขึ้นจากการวิจัยและพัฒนาของเราเอง เพิ่มมูลค่าสิ่งเหลือใช้หรือสิ่งที่อยู่ในระบบการเกษตรให้เพิ่มขึ้น หรือดีกว่า การเผาทิ้งวันนี้เราแก้ปัญหาเรื่อง PM 2.5 เรื่องคาร์บอนไดออกไซด์ได้คุยกับคุยกับทีมงานวิทยาศาสตร์ออกมาชัดเจนว่า จะมีกระบวนการอย่างไรที่ให้ประชาชนในพื้นที่จะได้นำไปใช้ประโยชน์ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำกระจายรายได้ และเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร 

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้อยากจะให้พิจารณาในหลักเชิงพื้นที่ทั้ง 6 ภาค ซึ่งมีสภาพอากาศแต่ละภาคมีสภาพความแตกต่างกันให้นำผลผลิตเหล่านี้มาทำใหม่ เพราะจะแก้ไขปัญหาในระดับโลกได้ด้วย ต้องช่วยกันลดพลังงานฟอสซิลลง ต้องปรับเศรษฐกิจของไทยเพื่อให้มีรายได้สูงขึ้นอย่างที่ตั้งเป้าไว้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลและเอกชนด้วย นี่คือการทำงานของประเทศไทย

นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า หลายอย่างเกิดขึ้นกับรัฐบาล 2 รัฐบาลที่ผ่านมา จะต้องมีอะไรก็ต่อยอดไปเรื่อยๆ สิ่งดีๆเกิดขึ้นแล้วในประเทศไทย สิ่งไม่ดีก็แก้ไขกันไปและทบทวน ขณะที่กฎหมายหลายตัวก็เช่นกันต้องประชาชนได้เข้าถึงหลายอย่าง ต้องเข้าสภา วันนี้จะอยากให้เวลาที่มีอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดโควิด -19 รีบพัฒนาเรื่องเหล่านี้ออกมาพอถึงเวลาเปิดประเทศ เพราะเมื่อถึง วันเปิดประเทศ จะเป็นประเทศที่ก้าวได้เร็วกว่าคนอื่น ล้มแล้วลุกไว ลุกและก็ก้าวต่อให้แข็งแรงปัญหาอื่นๆเป็นธรรมดาคนเยอะก็ปัญหาเยอะ สิ่งที่ขัดแย้งก็ว่ากันไป นำเอาข้อเท็จจริงมาว่ากันจนไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น อย่าพูดเรื่องความขัดแย้งอย่างเดียวขอให้พูดถึงความก้าวหน้ารัฐบาลมีวิสัยทัศน์อย่างไร ไม่อย่างนั้นวันข้างหน้าก็ไม่เกิดรัฐบาลเดินหน้ามาอย่างนี้ตลอด ต้องคิดไปข้างหน้า อย่าไปคิดแต่เรื่องเดิมๆ เพราะจะได้แต่สิ่งเดิมๆ

โดยช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรีระบุว่า ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ปี 2520 เปลี่ยนจากเกษตรกรรมมาเป็นการส่งออกและเทคโนโลยีไม่อย่างนั้นคงไม่มีคนรวยในปี 2530 จากโทรคมนาคม

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เตรียมเสนอญัตติด่วนให้สภาผู้แทนราษฎรมีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ญัตติดังกล่าวได้นำสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยนายกฯ กล่าวว่า ให้ไปถามนายไพบูลย์ เอง

ส่วนตัวมองว่าเห็นควรเลื่อนหรือไม่ เพราะอาจถูกมองว่าเป็นการคว่ำการอภิปราย นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธตอบพร้อมส่ายหัว และกล่าวเพียงว่า "ผมพร้อมที่จะอภิปราย"

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า นายกรัฐมนตรี พร้อมไปติวกับพรรคพลังประชารัฐร่วมกับ 10 รัฐมนตรีที่ถูกซักฟอกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ผมคงไปติวให้เขามากกว่า อย่างไรก็ตามข้อมูล ชี้แจงไปหมดแล้ว ใครทำอะไรไว้คิดดีๆแล้วชี้แจงไป เขาว่ามาก็ชี้แจงไป ผมเชื่อว่าชี้แจงได้ในหลายๆ เรื่อง เพราะอยู่ที่ผลงานมากกว่า ส่วนในเรื่องกฎหมายก็ให้ว่ากันมา และก็ต้องทน เพราะในสภาเขาพูดอะไรก็ได้ แต่ระวังอย่าให้มีปัญหาก็แล้วกัน"

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีความเห็น กรณีไพบูลย์ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ พร้อมถามว่า เขาทำได้หรือไม่ ใครทำได้ก็ทำไป ถ้าเขาไปยื่นศาลก็ฟังศาลแล้วกัน แต่ผมเองไม่มีปัญหาอะไรผมเองไม่มีปัญหากับการไม่ไว้วางใจไว้วางใจ" ก่อนตบที่หน้าอกตัวเองแล้วยืนยืนกับสื่อว่า "พร้อมตลอด พร้อมทุกวัน"


'ประวิตร' ไม่หวังล้มอภิปรายไม่ไว้วางใจ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค ขอเสนอญัตติด่วนให้สภาผู้แทนราษฎร มีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ ด้วยเกรงว่าจะมีเนื้อหาพาดพิงหรือกระทบต่อสถาบัน ว่า ไม่ควรเลื่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจออกไป แต่ไพบูลย์เห็นว่า เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับสถาบันและนำมาโยงกับการเมือง

ส่วนกรณีที่ไพบูลย์จะไปยื่นตนนั้นก็ไม่ทราบว่าจะทันหรือไม่ แต่สุดท้ายก็แล้วแต่ไพบูลย์ พร้อมกับระบุว่านายไพบูลย์ไม่ได้มีการมาปรึกษากับตนได้อย่างใด เป็นความคิดและการตัดสินใจของไพบูลย์เอง แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการคว่ำการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า เรื่องภายในพรรคนั้นไม่มีอะไรขณะนี้ เรื่องการสืบสวนการติว 10 รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจในระหว่างวันที่ 13-14 ก.พ.นี้ ซึ่งตนพร้อมจะไปร่วมด้วย 


'วิษณุ' เชื่อไม่ทำซักฟอกสะดุด

วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีปัญหา และไม่น่าจะทำให้การประชุมการ​อภิปราย​ไม่ไว้วางใจ ในวันที่ 16-19 ก.พ.นี้ สะดุด

เมื่อถามย้ำว่าหากตามขั้นตอนแล้วเมื่อศาลรัฐธรรมนูญ​รับคำร้องดังกล่าวแล้ว​จะต้องชะลอการอ​ภิปราย​ไม่ไว้วางใจหรือไม่ วิษณุ ระบุว่า "ศาลยังไม่รับ ก็อย่าเพิ่งไปคิด"


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :