นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน แถลงหลังการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรอย่างเป็นทางการว่า พรรคฝ่ายค้านพร้อมทำงานอย่างแข็งขันเพื่อตรวจสอบรัฐบาล โดยเฉพาะภาวะเสียงปริ่มน้ำแบบนี้

ส่วนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (20 ส.ค.) นายจิรายุ บอกว่า จะมีกระทู้ถามสด เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ การค้าขาย การเก็บภาษีไม่เป็นไปตามเป้า แล้วต่อด้วยกระทู้ถามสดเกี่ยวกับความคืบหน้าการเลือกตั้งท้องถิ่น แล้วจึงเข้าสู่การรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2561 ขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ ไทยพีบีเอส ที่ใช้งบประมาณปีละ 2,000 ล้านบาท ก่อนจะเข้าสู่การพิจารณาข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ข้อที่ 90 ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมีการแปรญัตติและมีการอภิปราย โดยเฉพาะการเสนอให้มีคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ และคณะกรรมาธิการชายแดน ทับซ้อนกับคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ โดยจะมีการอภิปรายก่อนลงมติ ซึ่งฝ่ายค้านพยายามกำชับสมาชิกให้รักษาองค์ประชุมไม่ให้น้อยกว่าการประชุมครั้งที่แล้ว

ส่วนการเสนอญัตติตั้งคณะกรรมการวิสามัญ ศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 นายจิรายุ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการพูดคุยกัน ต้องรอดูข้อสรุปเบื้องต้นก่อน และย้ำว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องของฝ่ายค้านเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของฝ่ายรัฐบาลด้วย

ส่วนสถานะของพรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่บางส่วนเข้าสังกัดฝ่ายรัฐบาลแล้ว นายจิรายุ กล่าวว่า ไม่ใช่แค่ฝ่ายค้านไปเข้าร่วมกับฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น แต่มีฝ่ายรัฐบาลมาเข้าร่วมกับฝ่ายค้านด้วยเช่นกัน และเมื่อบวกลบคูณหารแล้ว อาจมีกำไรมากกว่าด้วยซ้ำ ซึ่งบางคนอาจไม่อยากเปิดเผยตัวตน สามารถลงมติร่วมกับฝ่ายค้านได้ หากมีความคิดเห็นตรงกัน