ไม่พบผลการค้นหา
‘โจ ไบเดน’ ได้เป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครต ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ โดยพรรคย้ำว่า การเลือกไบเดนจะเป็นการฟื้นฟูประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักจากโควิด-19 และยุติความปั่นป่วนวุ่นวายจากการบริหารโดยรัฐบาล ‘ทรัมป์’

'โจ ไบเดน’ อดีตรองประธานาธิบดีในสมัยรัฐบาล ‘บารัก โอบามา’ ได้กลายเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตอย่างเป็นทางการในการลงชิงชัยเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยมี ‘กมลา แฮร์ริส’ เป็นคู่หาเสียงชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี หลังจากที่พรรคเดโมแครตได้เผยแพร่วิดีโอที่ตัวแทนผู้ลงคะแนน (Delegates) ของพรรคเดโมแครตจากทั้ง 50 รัฐ ลงมติแบบขานชื่อในที่ประชุมใหญ่ของพรรคเมื่อคืนวันที่ 18 ส.ค. 2563 ซึ่งเป็นการประชุมใหญ่วันที่ 2 จากทั้งหมด 4 วันในธีม ‘สาระความเป็นผู้นำ’ โดยการประชุมใหญ่ปีนี้ของพรรคจัดขึ้นในรูปแบบประชุมออนไลน์เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 

ไบเดนได้ปรากฏตัวผ่านไลฟ์พร้อม ‘จิลล์ ไบเดน’ ภรรยา จากโรงเรียนแห่งหนึ่งในรัฐเดลาแวร์ กล่าวขอบคุณสำหรับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการจากพรรค โดยไบเดนมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคในวันที่ 20 ส.ค. และหากเอาชนะ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ได้ในการเลือกตั้งวันที่ 3 พ.ย. นี้ ไบเดนจะกลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อายุมากที่สุดเมื่อสาบานตนรับตำแหน่งด้วยวัย 78 ปี  

รายงานระบุว่า การประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตเมื่อคืนวันที่ 18 ส.ค. เริ่มต้นด้วยวิดีโอสุนทรพจน์ของนักการเมืองดาวรุ่ง 17 คน ของพรรค ซึ่งรวมถึง ‘สเตซีย์ อับรามส์’ซึ่งเคยได้รับเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐจอร์เจียเมื่อปี 2561 และเคยเป็นหนึ่งในรายชื่อที่ไบเดนพิจารณาเพื่อเป็นคู่หาเสียงเลือกตั้งชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีด้วย โดยอับรามส์ระบุว่าอเมริกากำลังเผชิญกับภัยคุกคาม 3 รูปแบบบ ได้แก่ หายนะด้านสาธารณสุข การล่มสลายทางเศรษฐกิจ รวมถึงประเด็นความยุติธรรมทางเชื้อชาติและความเหลื่อมล้ำ ดังนั้นตัวเลือกจึงชัดเจนว่า จะเลือกผู้ที่มีประสบการณ์ในการรับใช้ประชาชนมาอย่างต่อเนื่องที่สามารถนำพาประเทศออกจากวิกฤตแบบที่เคยได้ทำมาก่อนหน้านี้ หรือเป็นผู้ที่รู้จักแต่การปฏิเสธความรับผิดชอบและสร้างความสับสน 

ขณะเดียวกัน ไบเดนยังได้รับการสนับสนุนจากอดีตประธานาธิบดีอีก 2 คนของพรรคเดโมแครต ได้แก่ ‘จิมมี คาร์เตอร์’ และ ‘บิล คลินตัน’ โดยอดีตประธานาธิบดีคลินตันกล่าวผ่านวิดีโอที่ถูกบันทึกไว้ล่วงหน้าว่า ในขณะที่ทรัมป์บอกว่าสหรัฐฯ เป็นผู้นำโลก แต่สหรัฐฯ กลับเป็นประเทศเศรษฐกิจอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียวที่อัตราการว่างเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าตัว ในเวลาเช่นนี้ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวควรเป็นศูนย์บัญชาการ แต่สถานที่ดังกล่าวกลับกลายเป็นศูนย์กลางพายุแทน โดยมีแต่ความปั่นป่วนวุ่นวาย พรรคเดโมแครตจึงมีความเป็นหนึ่งเดียวกันในการเสนอตัวเลือกประธานาธิบดีที่แตกต่างจากทรัมป์อย่างมาก โดยเป็นประธานาธิบดีที่ทำงาน อยู่กับความเป็นจริงและมีความรับผิดชอบ ไม่ใช่คนที่จะโยนความผิดหรือสร้างความไขว้เขว แตกแยก   

รีพับลิกันสายกลาง-กลุ่มอิสระ คือเป้าหมายของเดโมแครตในการโค่น ‘ทรัมป์’  

การกล่าวสุนทรพจน์สมาชิกของพรรคเดโมแครตในการประชุมใหญ่วันที่ 2 ถูกมองว่ามีเป้าหมายแสดงให้ผู้ลงคะแนนเลือกตั้งเห็นว่า เดโมแครตเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดอย่างไรในการแก้ปัญหาต่างๆ ทั้งภายในและนอกประเทศ สื่อบางสำนักมองว่าพรรคเดโมแครตหวังชนะใจรีพับลิกันสายกลางและกลุ่มอิสระที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองซึ่งรู้สึกไม่สบายใจกับแนวทางการเป็นผู้นำที่สร้างความแบ่งแยกของทรัมป์ โดยมีสมาชิกพรรครีพับลิกันที่มีชื่อเสียงหลายคนที่ข้ามฟากมาประกาศตัวสนับสนุนไบเดน หนึ่งในนั้นคือ ‘โคลิน พาวเวลล์’ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในสมัยรัฐบาลอดีตประธานาธิบดี ‘จอร์จ ดับเบิลยู บุช’ และได้ประกาศสนับสนุนไบเดนเป็นประธานาธิบดีเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา

โดยพาวเวลสล์ได้กล่าวผ่านวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ในที่ประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ระบุว่าสหรัฐฯ ต้องการผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่ดูแลกองทัพแบบเดียวกับที่ดูแลครอบครัวของตัวเอง หากไบเดนอยู่ในทำเนียบขาวก็จะไม่มีข้อสงสัยเลยว่าเขาจะเคียงข้างมิตรและยืนหยัดต่อต้านศัตรู รวมถึงจะเชื่อใจในนักการทูตและฝ่ายข่าวกรอง ไม่ใช่ยกย่องเผด็จการและผู้กดขี่ โดยนี่นับเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งที่ 4 ติดต่อกันแล้ว ที่พาวเวลล์ประกาศสนับสนุนผู้ชิงชัยจากพรรคเดโมแครต หลังจากที่เคยประกาศสนับสนุนบารัค โอบามา เป็นประธานาธิบดีในการเลือกตั้งปี 2551 และ 2555 รวมถึงสนับสนุน ’ฮิลลารี คลินตัน’ เมื่อปี 2559

ส่วนก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมาซึ่งเป็นการประชุมใหญ่วันแรก ‘มิเชล โอบามา’ อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 และ ‘เบอร์นี แซนเดอร์ส’ ซึ่งเคยเป็นคู่แข่งไบเดนชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคก็ได้กล่าวสุนทรพจน์ผ่านวิดีโอเช่นกัน โดยแซนเดอร์สระบุว่า ขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อความก้าวหน้าที่เขาได้นำมีความแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน แม้จะเคยเป็นคู่แข่งกับไบเดนอยู่หลายเดือน แต่แซนเดอร์สก็เรียกร้องผู้สนับสนุนของตัวเองให้สนับสนุนไบเดน ซึ่งมีความสายกลางมากกว่า โดยเตือนว่าหากทรัมป์ได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง ความก้าวหน้าทั้งหมดที่ได้ทำมาก็จะตกอยู่ในความเสี่ยง  

ทั้งนี้ การประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าซึ่ืงจะเป็นการประชุมออนไลน์เช่นกัน โดยทรัมป์จะกล่าวสุนทรพจน์รับเป็นตัวแทนพรรคอย่างเป็นทางการที่ทำเนียบขาว แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่านี่เป็นการใช้ทรัพย์สินของรัฐเพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง 

อ้างอิง Reuters / The Guardian / The New York Times / CNN