สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าสำนักงานอัยการสูงสุดตอบคำถามกองทัพเรือในการแก้ปัญหาโครงการเรือดำน้ำที่จัดหาจากจีน ว่า ขอรอหนังสือตอบมาเป็นทางการก่อน เพราะยังไม่เห็นรายละเอียด แต่การจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อตกลงหรือการดำเนินการไปข้างหน้าหรือทางใด ต้องเป็นมติ ครม. ลักษณะคล้ายกับ พ.ร.บ.กู้เงินฯ ถึงแม้ว่าผลจะออกมาอย่างไร ก็ต้องเอาเข้า ครม.

ส่วนจะต้องยืดสัญญาออกไปอีกหรือไม่ สุทิน กล่าวว่า ก็ต้องดูว่าทางสำนักงานอัยการสูงสุด ตอบกลับมาอย่างไร เพราะการขอขยายสัญญาก็ต้องนำเข้า ครม. เช่นกัน อีกทั้งไม่ต้องส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ

และถ้าหากกองทัพเรือเห็นไม่ตรงกัน ก็ยึดมติ ครม.เป็นหลัก เพราะมติเป็นองค์กรตัดสินใจสูงสุด โดย ครม. จะฟังความต้องการและความเห็นกองทัพมากอยู่ 

สุทิน ยังคิดว่า จะไม่ส่งผลต่อการพิจารณางบประมาณปี 67 เพราะงบเรือดำน้ำในปี67 ก็ไม่ได้มีอะไรเข้ามา มีแค่งบเก่าที่จะสร้างท่าเรือ ระหว่างนี้ก็ทำต่อไป แม้อาจไม่ได้เรือดำน้ำ ก็ปรับใช้ประโยชน์อย่างอื่น เช่น เป็นอู่เรือพาณิชย์หรือเรือฟริเกตแทน ตนสอบถามแล้ว สามารถปรับใช้ประโยชน์ทางอื่นได้เยอะ ไม่เสียของ ทำไปได้ เพียงแต่ระยะสุดท้าย ยังไม่ถึงระยะที่ 3 และยังไม่ได้เซ็นต์สัญญา ซึ่งเป็นการออกแบบอู่จอดเรือดำน้ำและโรงซ่อมบำรุงโดยตรง ยังไม่ได้ลงนาม โดย 2 ระยะแรก ก็ใช้กับเรือทั่วไปได้ ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานทั่วไป

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีได้ให้ข้อคิดเห็นในเรื่องเรือดำน้ำหรือไม่ สุทิน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ให้ยึดข้อกฎหมายและดูความต้องการของกองทัพเรือ และอย่างที่ตนพูดในสภาฯ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ถ้ารักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ ก็รักษาไว้ เว้นแต่จำเป็นจริง

สุทิน ยังกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ากองทัพเรือไปเจรจาหรือล็อบบี้ฝ่ายการเมือง เพื่อให้เรื่องนี้ผ่าน ได้ต่อเรือดำน้ำต่อไป ว่า ยัง ถ้าล็อบบี้ ก็ต้องล็อบบี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และยืนยันว่า ไม่มีล็อบบี้

เมื่อถามว่าในช่วงนี้มีผู้ค้าอาวุธมาวิ่งเต้นกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือไม่ สุทิน กล่าวว่า ไม่มี มีเพียงส่งไลน์หรือส่งโซเชียลฯมา แต่เรื่องนี้ตัดสินใจอะไรไม่ได้ รัฐมนตรีตัดสินใจไม่ได้คนเดียว

พร้อมกันนี้ สุทิน ยอมรับว่า กลัวในเรื่องข้อกฎหมาย เราก็ไม่มาเสี่ยง และยึดหลักสุจริตเป็นเกราะกำบัง

ยังไม่ตัดสินใจลาออก สส.เพื่อไทย

สุทิน กล่าวถึงการตัดสินใจลาออกจากการเป็น สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เหมือนกับ 3 รัฐมนตรี ว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจ โดยขอไปพูดกันในพรรคก่อนว่าจะเป็นอย่างไร

และเมื่อถามว่าหากลาออก จากการเป็น สส. สภาคงไร้สีสัน ทำให้ สุทิน ถึงกับหัวเราะ

เตรียมต้อนรับนายกกัมพูชา

สุทิน กล่าวถึงกรณีที่พลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เตรียมเยือนประเทศไทย ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อพบืเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังว่า ตนเองยังไม่ทราบว่าจะมีการหารือเรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ระหว่างไทยและกัมพูชาหรือไม่ เนื่องจากด้านข้อหารือ นายกรัฐมนตรีและทีมงานของนายกรัฐมนตรี กำลังดำเนินการกันอยู่ ว่าจะมีเรื่องใดบ้าง เชื่อว่าเมื่อได้ข้อสรุป ก็จะแจ้งให้ตนเองได้ทราบ ทั้งนี้ คาดว่าตนเองก็จะร่วมต้อนรับพลเอก ฮุน มาเนต ด้วย

สำหรับทางออกในการดึงพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนมาใช้ ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงพลังงาน กระทรวงการต่างประเทศ ไปดำเนินการ เนื่องจากเรื่องนี้ฝ่ายความมั่นคงยังต้องรอรายละเอียดจากหลายหน่วยงานจึงจะดำเนินการต่อไป