วันที่ 24 ก.ย. 2565 ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยระบุว่า พรรคพลังประชารัฐก็เตรียมฟังคำวินิจฉัยเท่านั้น ไม่มีอะไร โดยพรรคเคารพและยอมรับคำวินิจฉัยของศาลอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องทำงานต่อไปให้ดี
ส่วนไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร และจะมีการสนับสนุนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีต่อไปเลยหรือไม่ ชัยวุฒิ กล่าวว่ายังไม่ทราบ ให้ถึงเวลาก่อน
ชัยวุฒิ ยอมรับว่าหากมีม็อบออกมาเคลื่อนไหวในวันที่ 30 ก.ย.นี้ มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดีและน่าเป็นห่วงอยู่แล้ว ถ้าไม่อยากให้บ้านเมืองวุ่นวาย หรือเกิดการกระทบกระทั่งจนถึงขั้นบาดเจ็บ ก็ไม่อยากให้ออกมาเคลื่อนไหวกันในช่วงนี้ และตอนนี้ก็เป็นช่วงที่ประชาชนหลายคน เดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วม และปัญหาต่างๆ รัฐบาลก็อยากจะทำหน้าที่ ให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า
"หากไม่พอใจรัฐบาลก็อยากให้ใจเย็นๆ อีกไม่กี่เดือนก็จะถึงช่วงของการเลือกตั้งแล้ว ถ้าเคลื่อนไหวมากๆ ระวังจะไม่ได้เลือกตั้งนะ” ชัยวุฒิ ระบุ
ชัยวุฒิ ยังได้กล่าวถึงข้อบังคับของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องป้ายหาเสียงขนาดใหญ่ โดยมองว่า กกต.ไม่ได้ห้ามไม่ให้หาเสียง สามารถไปเยี่ยมเยียนประชาชน พูดคุยกับชาวบ้าน นำเสนอโยบายได้ตามปกติในฐานะคนของประชาชน แต่ห้ามไม่ให้ซื้อของไปมอบหรือแจกชาวบ้าน หากทำต้องจดบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ซึ่งหากทำเยอะ ก็ทำให้ไม่สามารถลงเลือกตั้งได้เพราะจะเกินจากงบที่ กกต.กำหนด
เรื่องที่ 2 เป็นเรื่องการติดป้ายหาเสียง ต้องมีขนาดตามที่ กกต.กำหนด ซึ่งมีข้อกำหนดไว้ว่าต้องมีขนาด 1.2 คูณ 2.4 เมตร ห้ามใหญ่กว่านี้ ดังนั้นพรรคการเมืองใดที่ขึ้นป้ายขนาดใหญ่ต้องไปเอาลง ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐได้สั่งการให้เอาลงเรียบร้อยแล้ว
ส่วนจะเป็นการทำให้พรรคใหญ่เสียเปรียบหรือไม่ เพราะลงทุนไปจำนวนมาก ชัยวุฒิ ระบุว่า ก็คงเสียเปรียบทุกพรรค วันนี้ตนลงพื้นที่ก็เห็นป้ายของนักการเมืองทั่วไปอยู่แล้วทุกพรรค
"วันนี้ผมมาลงพื้นที่ในนามรัฐมนตรี ไม่ได้มาหาเสียง ผมต้องทำ ไม่เช่นนั้นชาวบ้านเดือดร้อน จะให้ปล่อยให้เป็นแบบนั้นเลยหรือ" ชัยวุฒิ ระบุ
เมื่อถามว่าฝ่ายค้านมองว่า การลงพื้นที่ในลักษณะนี้อาจทำให้ฝ่ายค้านเสียเปรียบ ชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนก็ไม่เข้าใจ อยู่ที่มุมมอง คิดว่า แต่ละคนมีอำนาจหน้าที่ก็ทำงานไป ไม่เกี่ยวกับฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ใครมีหน้าที่ทำอะไรก็ทำไป พี่น้องประชาชนเป็นคนดูว่าใครทำดีหรือไม่ดี ใครทำดีคนก็จะเลือก ใครทำไม่ดีคนก็ไม่เลือก ไม่ได้เป็นการเอารัดเอาเปรียบ