เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 22 ธ.ค. 2564 ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน พร้อมเปล่ามอบนโยบาย การจัดประชุมสัมมนามอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ทุกคนทราบดีว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 มีแนวโน้มที่ดีขึ้นมาตามลำดับ ทำให้สามารถผ่อนคลายมาตรการต่างๆไปได้บ้าง ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีก ธุรกิจบันเทิงและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง แต่อย่างไรก็ตามคงต้องระมัดระวังกันต่อไป ในทุกวิธีในเรื่องของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด และได้ทำเรื่องนี้มาอย่างยาวนานแล้ว ตามมาตรการร่วมกับรัฐบาล ศบค. และสาธารณสุข เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาด จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆด้วยความมีสติ มีการเตรียมความพร้อมต่างๆตามสมมติฐาน ในช่วงระยะเวลาต่อไป
ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐ มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ จัดทำรายจ่ายงบประมาณ 3.1 ล้านล้านบาท และวงเงิน 3.7 หมื่นล้านบาท มีเงินกู้ 5 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตามพ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท จะสิ้นสุดลงในปีงบประมาณ 2565 เพราะฉะนั้นการใช้จ่ายประจำของภาครัฐปีงบประมาณ 2566 ถือปัจจัยสำคัญปัจจัยเดียวในเรื่องการฟื้นฟูของเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ซึ่งแนวทางการจัดทำปีงบประมาณ 2566 วัตถุประสงค์เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณ สามารถจะขับเคลื่อนพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติได้อย่างต่อเนื่อง และแก้ไขปัญหาที่สำคัญของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพประสิทธิผล และเกิดผลอย่างเป็นรูปประธรรม โดยการจัดทำงบประมาณมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างพุ่งเป้า การเรียนรู้เทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ และเศรษฐกิจฐานรากถือเป็นเศรษฐกิจสำคัญ พร้อมเน้นย้ำให้บริหารรายจ่ายงบประมาณประจำอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัด นำเทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับใช้ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงประเมินผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินการ ว่าเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้มากน้อยเพียงใด หากโครงการใดไม่สามารถบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้จะต้องยกเลิก เรื่องนี้เป็นสำคัญที่สุด
นอกจากนี้ยังต้องมีแผนการใช้จ่ายงบประมาณการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด -19 ซึ่งต้องยอมรับว่า เรายังคงต้องอยู่กับ โควิด -19 ไปอีกนาน จึงต้องปรับตัวใช้ชีวิตอยู่อย่างปลอดภัย และจะต้องมีการส่งเสริมการกระจายอำนาจไปยังการปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายโอนภารกิจที่สามารถปฏิบัติได้จริง จัดบริการสาธารณะลดความเหลื่อมล้ำ รวมไปถึงการจัดเก็บรายได้ ขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และจะต้องจัดทำงบประมาณให้ครอบคลุมทุกแหล่งเงิน โดยหากมีงบประมาณนอกจะต้องนำมาพิจารณาก่อน เพื่อลดภาระงบประมาณและทำให้ทรัพยากรประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด
โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า อย่าให้เกิดการทุจริตโดยเด็ดขาด เนื่องจากจะมีความผิดทั้งผู้ให้และผู้รับ โดยประชาชนสามารถส่งข้อมูลร้องเรียนเข้ามายังรัฐบาลได้
โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนยืนยันว่าในฐานะที่เป็นผู้นำรัฐบาล เป็นยินดีที่ได้ร่วมงานกับบรรดารัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาล ครม และข้าราชการทุกคน ที่ได้ร่วมกันจัดทำงบประมาณปี 2564 - 2565 เป็นไปตามหลักการของยุทธศาสตร์ชาติ และแผนปฏิรูป และแผนอื่นๆที่กำหนด พร้อมกับระบุว่า หากไม่มีเป้าหมาย ไม่มีทิศทาง ก็จะไปครึ่งครึ่งกลางกลาง เหมือนจะไปไหนก็ไปไม่สุด ไม่สิ้นสุด ตรงนี้นิด ตรงโน้นหน่อย ไม่มีอะไรยั่งยืน หากต้องการความยั่งยืนก็ต้องเดินตามนี้
ตนเข้าใจว่าคนไทยทุกวันนี้รู้จักโซเชียลมีเดียจำนวนมาก รู้หมด รู้ว่าประชาชนต้องการอะไร รู้ว่าอยากได้อะไร อยากให้ทำอะไร แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือหน้าที่ของรัฐที่จะต้องทำความเข้าใจกับประชาชน อะไรคือระเบียบปฏิบัติ อะไรคือวิธีทำงาน ที่ต้องให้ความสำคัญ บางทีอาจจะมีคำพูดคำกล่าวให้ทำอย่างนู้นอย่างนี้ แต่ละการบริหารอยู่ที่ไหน ใครจะทำอะไรต้องรู้ว่าหลักการบริหารราชการแผ่นดินมีอะไร มีระเบียบข้อบังคับต่างๆมากมาย ถ้าทุกคนช่วยกันก็สามารถเดินหน้าไปได้ด้วยดี
นายกรัฐมนตรีมองว่า วันนี้สถานการณ์โซเชียลค่อนข้างรุนแรง จะทำอย่างไรให้ทุกคนคิดและร่วมมือกัน ตนบังคับใครให้คิดเหมือนกันไม่ได้อยู่แล้ว ตนไม่เคยบังคับใคร แต่ต้องการให้เกิดความร่วมมือและเข้าใจรัฐบาล ช่วยหาวิธีการช่องทางที่เหมาะสมในการที่จะศึกษารัฐบาล ว่าจะพัฒนาตนเองไปได้อย่างไรพร้อมกับรัฐบาล และอย่าลืมว่ารัฐบาลมีงบประมาณแค่ 3.1 หมื่นล้านล้านบาท ที่จะต้องศึกษาให้รอบด้านไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหา เกิดความขัดแย้ง อะไรก็ตามต้องทำตามกฎหมาย ทำประชาพิจารณ์ ทำ SEA เนื่องจากประชาชนยังเรียนรู้ไม่เพียงพอตนไม่ได้ว่าเขา แต่นี่คือความบกพร่องของเราเอง เราต้องเป็นคนถ่ายทอดให้เขา ตนคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้ประเทศไทยก้าวหน้าได้เร็วขึ้น ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
"เมื่อล้มก็ต้องรีบลุก ลุกให้ไว หลักของเราคือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และบริหารจัดการงบประมาณการเงินให้มีประสิทธิภาพ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความไว้เนื้อเชื่อใจของประชาชนทั้งประเทศ สิ่งใดที่ไม่ดีต้องเรียนรู้แก้ไขทำความเข้าใจ สิ่งสำคัญในวันนี้คือความมีเสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาล ของประเทศชาติ ความสงบสุขของประเทศชาติ ประเทศไทย"
พล.อ.ประยุทธ์ ระะบุว่า เราโชคดีที่อยู่ในดินแดนที่มีความสุข เรียกว่าสุวรรณภูมิ มายาวนาน หลายร้อยปี เพราะฉะนั้นจะนำประวัติศาสตร์ที่ดีมาเป็นตัวก่อกำเนิดให้เราได้ทำประวัติศาสตร์ใหม่ร่วมกันกับคนรุ่นปัจจุบัน วันนี้คือประวัติศาสตร์ในอนาคตของเราจึงต้องเริ่มจากเราเริ่มจากคนในยุคนี้ โดยหน้าที่ของรัฐบาล คณะรัฐมนตรี ราชการ มีอย่างเดียว คือทำให้ทุกคนมีความสุข มีความสุขอย่างพอเพียง คำว่าพอเพียงคือมีมาก ใช้มากมีน้อยใช้น้อย เพื่อประชาชน การทำงานเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนและเป็นที่รักยิ่ง โดยประชาชนต้องได้ประโยชน์สูงสุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง