นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนนที่อาจก่อให้เกิดความสูญเสียต่อผู้ใช้รถใช้ถนน กรมการขนส่งทางบกขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุก หลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้าและงดการใช้รถที่ไม่มีการบรรทุกสินค้า (รถเปล่า) ช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ตั้งแต่วันที่ 12 – 17 ก.ค. 2562 และขอความร่วมมือองค์กรด้านการขนส่งสินค้า จำนวน 14 แห่ง ประกอบด้วย สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย, สมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย, สมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย, สมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน, สมาคมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบัง ชลบุรี, สมาคมขนส่งสินค้าเพื่อการนำเข้าและส่งออก, สมาคมผู้ประกอบการรถเครน, สมาคมโลจิสติกส์และขนส่งภาคใต้, สมาคมผู้ประกอบธุรกิจวัตถุอันตราย, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สมาคมขนส่งภาคตะวันออก และชมรมขนส่งสินค้าท่าเรือแหลมฉบัง
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการขนส่งรายใดมีความจำเป็นต้องทำการขนส่งสินค้าในช่วงเวลาดังกล่าว ควรหลีกเลี่ยงเส้นทางและช่วงเวลาที่มีการสัญจรเป็นจำนวนมาก และตรวจสอบสภาพความมั่นคงแข็งแรงและอุปกรณ์ส่วนควบของรถให้พร้อมใช้งานทุกครั้ง พร้อมกำกับดูแลผู้ขับรถให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดตามกฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่ง พ.ศ. 2558 และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ความเร็วต้องไม่เกินที่กฎหมายกำหนด ตรวจสอบไม่ให้มีการบรรทุกที่ไม่ปลอดภัย บรรทุกน้ำหนักเกิน ตลอดจนห้ามจอดรถในทางเดินรถหรือไหล่ทางโดยเฉพาะบนทางหลวงพิเศษ หมายเลข 7, หมายเลข 9 หรือระหว่างจังหวัด
กรณีที่รถเกิดขัดข้องหรือมีความจำเป็นต้องจอดรถในช่องทางเดินรถหรือบริเวณไหล่ทางจะต้องแสดงสัญญาณไฟกะพริบและจัดให้มีเครื่องหมายตามลักษณะและเงื่อนไขที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด พร้อมดำเนินการแก้ไขและเคลื่อนย้ายรถให้พ้นจากทางเดินรถโดยเร็วที่สุด
สำหรับรถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ต้องตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับยึดตรึงตู้คอนเทนเนอร์ (Twist Lock) ไว้กับตัวรถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ รวมทั้งเข้มงวดกวดขันพนักงานขับรถทุกคนต้องมีใบอนุญาตขับรถตรงตามประเภท ไร้สารเสพติดและแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ ในกรณีที่รถติดตั้ง GPS Tracking ให้ติดตามการใช้รถอย่างต่อเนื่องและต้องตรวจสอบอุปกรณ์ส่งสัญญาณให้สามารถส่งข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS ทั้งที่ส่วนกลางและศูนย์ฯ GPS แต่ละจังหวัดจะเฝ้าระวังตรวจสอบการใช้งานรถตลอด 24 ชั่วโมง หากผู้ประกอบการขนส่งและพนักงานขับรถละเลยการปฏิบัติตามกฎหมายจนเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ มีความผิดทั้งพนักงานขับรถและผู้ประกอบการขนส่งต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น โดยกรมการขนส่งทางบกจะพิจารณาพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการขนส่ง