พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวอภิปรายคุณสมบัติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. แคนดิเดตชิงนายกฯ ว่า ตลอดการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ได้เกิดกรณีทุจริตหลายเรื่อง อาทิ ลูกชายของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา เปิดบริษัทในค่ายทหาร กรณี 'แหวนแม่นาฬิกาเพื่อน' ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือการคัดเลือกวุฒิสมาชิกที่มีข้อครหาจากคนในสังคม อีกทั้งมี ม.44 ยังไม่สามารถพัฒนาประเทศได้
ขณะเดียวกัน พล.อ.เสรีพิศุทธ์ เปิดเผยกลางสภาว่า มีการโทรมาติดต่อซื้อตัวสมาชิกพรรคเสรีรวมไทยจำนวน 10 คน เพื่อไปสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. โดยยื่นข้อเสนอเป็นจำนวนเงิน 300 ล้าน พร้อมตำแหน่ง ซึ่งตนได้ปฏิเสธไป และระบุว่า "ไม่ยอมเสียหมา" และ "ขอเป็นคนดีกว่า" เพราะตนไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจ และยึดหลักการประชาธิปไตย
ล่าสุด วันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังการเลือกรองประธานสภาฯ ก็มีการติดต่อ แต่ตนก็ได้ปฏิเสธอีกครั้ง และไม่รู้ว่าพรรคที่ไปเข้าร่วมจะได้รับการยื่นข้อเสนอและต่อรองผลประโยชน์อย่างไร
"พฤติกรรมที่ผมกล่าวมาทั้งหมด อย่าว่าแต่สนับสนุนเป็นนายกรัฐมนตรีเลย แม้แต่ยามที่บ้านผมก็ไม่เอานะครับ" หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยกล่าว
อย่างไรก็ดี พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา สมาชิกวุฒิสภา ตามที่มีผู้อภิปรายกล่าวหาว่าตนยินยอมให้บุตรใช้บ้านพักของทางราชการ กองทัพภาคที่ 3 จ.พิษณุโลก เป็นที่ทำการรับเหมาก่อสร้าง ตนขอชี้แจงว่า ระหว่างปี 2557 ตนดำรงตำแหน่ง แม่ทัพภาคที่ 3 ตนและครอบครัว ได้แก่ ภรรยาและบุตร ได้พักอาศัยอยู่ในค่ายเอกาทศรถ ไม่มีบ้านพักอยู่นอกค่าย บุตรชายตนได้จัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด ตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งห้างหุ้นส่วนจำกัดหรือบริษัทจำกัดต้องมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง แต่บุตรชายตนพักอยู่กับตนในค่าย ไม่มีที่อยู่ที่อื่น จึงต้องใช้ที่อยู่ในค่ายดังกล่าวเป็นที่อยู่ไปพลางๆ ก่อน โดยตนไม่ได้มีส่วนสนับสนุนของบุตรชายแต่อย่างใด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: