ไม่พบผลการค้นหา
กลุ่มหนุนอิสรภาพไต้หวันล่ารายชื่อผู้สนับสนุนให้จัดประชามติว่าด้วยการ 'ปฏิรูปรัฐธรรมนูญ' เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพสังคม-การเมืองในปัจจุบัน เพราะ รธน.ที่ใช้อยู่ถูกบังคับใช้ตั้งแต่ช่วงสงครามกลางเมืองจีน และยังไม่มีการก่อตั้งไต้หวัน

สำนักข่าว VOA และ Focus Taiwan รายงานอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของ 'กู่กวางหมิง' แกนนำของมูลนิธิเพื่อการปฏิรูปรัฐธรรมนูญไต้หวัน หรือ Taiwan New Constitution (TNC) ที่ต้องการขับเคลื่อนให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่

รายงานข่าวระบุว่า ประชาชนไต้หวันมากกว่า 3,000 คน ลงชื่อสนับสนุนให้จัดประชามติหยั่งเสียงเรื่องการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ โดยตัวเลขดังกล่าวถือว่ามากกว่า 1,931 รายชื่อที่เป็นข้อกำหนดขั้นต่ำตามกฎหมายไปแล้ว

กู่และสมาชิกมูลนิธิ TNC ได้นำรายชื่อดังกล่าวไปยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งของไต้หวันเมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา พร้อมเสนอให้จัดลงประชามติภายในเดือน ส.ค.2564

ส่วนคำถามในการลงประชามติมีเพียง 2 ข้อ คือ (1) ประชาชนไต้หวันเห็นด้วยกับการปฏิรูปรัฐธรรมนูญหรือไม่ และ (2) ประชาชนสนับสนุนให้ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินดำเนินการวางรากฐานรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพที่เป็นจริงในปัจจุบันของไต้หวันหรือไม่

ทั้งนี้ Focus Taiwan รายงานว่า จำนวนรายชื่อ 1,931 รายที่เป็นขั้นต่ำในการเข้าชื่อเสนอความเห็นต่อรัฐบาลไต้หวัน มาจากสัดส่วน 1 ต่อ 1000 ของผู้ที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งพรรคของประธานาธิบดี 'ไช่อิงเหวิน' หนึ่งในผู้สนับสนุนแนวคิดเอกราชไต้หวัน ได้รับชัยชนะเหนือพรรคชาตินิยมก๊กมินตั๋งที่ต้องการประนีประนอมกับจีนแผ่นดินใหญ่ 

กู่ระบุว่า ทัศนคติของชาวไต้หวันในปัจจุบันแตกต่างจากเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว เพราะสังคมได้พัฒนาแนวคิดเรื่องประชาธิปไตยมาโดยตลอด ทำให้คนรุ่นใหม่พูดคุยกันเรื่องปฏิรูปรัฐธรรมนูญเพิ่มมากขึ้น โดยรัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่ตอนนี้ ถูกบังคับใช้ตั้งแต่ปี 1946 (พ.ศ.2489) ซึ่งขณะนั้นไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของ 'สาธารณรัฐจีน'

จนกระทั่งปี 1949 (พ.ศ.2492) พรรคชาตินิยมก๊กมินตั๋งพ่ายแพ้สงครามกลางเมืองให้แก่พรรคคอมมิวนิสต์จีน และต้องลี้ภัยจากจีนแผ่นดินใหญ่มายังไต้หวันเพื่อประกาศตั้งรัฐบาลใหม่ และสถาปนาไต้หวันในฐานะ 'สาธารณรัฐจีน' ส่วนพรรคคอมมิวนิสต์ในจีนแผ่นดินใหญ่ประกาศก่อตั้งประเทศใหม่ในฐานะ 'สาธารณรัฐประชาชนจีน' 

มรดกรัฐธรรมนูญสมัยพรรคก๊กมินตั๋งปกครองไต้หวันยุคแรก ทำให้จีนกล่าวได้ว่าไต้หวันถือเป็นส่วนหนึ่งของ 'จีน' แต่ประชาชนไต้หวันในยุคหลังรณรงค์ว่าควรเลิกใช้คำว่า 'สาธารณรัฐจีน' และเปลี่ยนมาเป็น 'สาธารณรัฐไต้หวัน' แทน เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน

หลินอี้เฉิง ผู้จัดการ TNC ระบุเพิ่มเติมด้วยว่า แบบสอบถามความเห็นประชาชนในไต้หวันเมื่อ 30 ปีก่อน บ่งชี้ว่าชาวไต้หวันเพียง 13 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ระบุว่าตนเองไม่ใช่คนจีน แต่ในปีนี้ มีผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่า 83 เปอร์เซ็นต์ที่ระบุว่าตนเองไม่ใช่คนจีน แต่เป็น 'ชาวไต้หวัน'

อย่างไรก็ตาม สำนักงานกิจการไต้หวันของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ แถลงวิพากษ์วิจารณ์การเคลื่อนไหวของ TNC ว่าเป็น 'การแบ่งแยกดินแดน' และเตือนว่าการปฏิรูปรัฐธรรมนูญเป็นปฏิปักษ์ต่อประวัติศาสตร์ ทั้งยังจะต้องเจอกับ 'ทางตัน' อย่างแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: