ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ ถ.ราชดำเนินกลาง คณะหลอมรวมประชาชน นำโดย จตุพร พรหมพันธุ์ และ นิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา ได้แถลงข่าวก่อนการเสวนา 'นับหนึ่งประเทศไทย ด้วยอธิปไตยของปวงชน หลัง 30 กันยายน' ถึงการนัดหมายชุมนุมที่จะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 30 ก.ย. ซึ่งจะเป็นวันอ่านคำวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

จตุพร เผยว่า ในวันที่ 25 ก.ย. ที่จะถึงนี้ เวลา 13.00 น. คณะหลอมรวมฯ จะเปิดเวทีรับฟังความเห็นจากประชาชนหลายแวดวง อาทิ สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ซึ่งจะปาฐกถาในหัวข้อ อธิปไตยของปวงชน รวมถึงเวทีเสวนาโดย ปราโมทย์ นาครทรรพ สุริยะใส กตะศิลา พิภพ ธงไชย และ สาวิทย์ แก้วหวาน

"ประเทศไทยไม่เคยเป็นนายกฯ ขาดตอน แต่ประเทศไทยนั้นขาดตอนมา 8 ปีแล้ว ล้มเหลวทุกด้านโดยสิ้นเชิง ไม่เคยเห็นอนาคต ผลลัพธ์ ผลพวงการอยู่หรือไปของ พล.อ.ประยุทธ์ ในวันที่ 30 ก.ย. นั้น จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญต่อการเมืองไทยทั้งกระดาน การไม่รู้จักพอของ พล.อ.ประยุทธ์ จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทุกเรื่อง"

จตุพร เปรียบเทียบว่า ชะตากรรมของ พล.อ.ประยุทธ์ เหมือนกับผู้นำของประเทศยูเครนที่กำลังยับเยินใกล้พ่ายแพ้แล้ว คนเวลาจะจากไป โหงวเฮ้ง ราศีหน้าตาจะออกจะหมองคล้ำ จะนับหนึ่งการเคลื่อนไหวในวันที่ 30 ก.ย. เพราะจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง สัปดาห์หน้าจะเห็นปรากฏการณ์ทางการเมืองในหลายกรณี ไม่ว่าผลวินิจฉัยจะเป็นอย่างไร เราก็จะนัดหมายเจอกันที่ ถ.ราชประสงค์

ด้าน ทนายนกเขา ระบุว่า การที่ศาลสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็เป็นเหตุให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่สามารถปฏิบัติการต่อไปได้ เนื่องจากมีการร่วมกันฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญแล้วตั้งแต่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา ดังนั้นการที่คณะรัฐมนตรีการดำรงอยู่ได้ คือกำลังทำผิดกฎหมายอยู่ แต่อยู่ได้เพราะลมปากของ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่บอกว่าทำหน้าที่ และการดำรงอยู่กับคณะรัฐมนตรีถือเป็นการขัดขวางหน้าที่ของปลัดกระทรวง ซึ่งต้องเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน 

หากมีข้อวินิจฉัยให้ พล.อ.ประยุทธ์ พ้นจากตำแหน่ง ก็จะไม่สามารถหานายกฯ ใหม่ เนื่องจากทั้ง ครม. และสภาผู้แทนราษฎร ล้วนทำผิดรัฐธรรมนูญไปแล้ว และข้อหานี้ก็จะมีผลเช่นกัน แม้คำวินิจฉัยจะให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อ ดังนั้น หลังจากวันที่ 30 ก.ย. จะเป็นการนับหนึ่งประเทศไทยโดยแท้จริง