ไม่พบผลการค้นหา
‘แบม-ตะวัน’ ยอมให้แพทย์จาก รพ.ตำรวจตรวจร่างกาย ย้ำหากอาการวิกฤตพร้อมประสานความช่วยเหลือ 24 ชม. พร้อมสั่งเพิ่มกำลังตำรวจดูแลความปลอดภัย หลังเจอผู้ไม่หวังดีก่อเหตุ

วันที่ 28 ก.พ. เวลา 15.00 น. ที่ศาลฎีกา ถนนราชดำเนิน บริเวณลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) พร้อมทีมแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ ส่วนของกลุ่มงานศูนย์ส่งกลับ และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เดินทางมาขอตรวจร่างกาย ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ แบม-อรวรรณ ภู่พงษ์ สองนักกิจกรรมอิสระที่ปักหลักอดอาหารหน้าศาลฎีกา 

ด้าน พ.ต.ต.นพ.ปีเฉลิม พิสนุแสน แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉินหน่วยส่งกลับโรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า ทีมแพทย์ประเมินแล้วว่า ทั้งสองอยู่ในขั้นวิกฤต และผลเลือดมีค่าความเป็นกรดสูง มองว่าถ้าปล่อยให้ทั้งสองอดอาหารต่อไป เสี่ยงต่อการมีภาวะไตวาย ตับวาย ทุพพลภาพ ดังนั้นทีมแพทย์จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงเดินทางมาเพื่อดูว่าจะช่วยเหลือทางการแพทย์อย่างไรได้บ้าง เพื่อให้ทั้งสองคนมีสุขภาพที่ดีขึ้น และหากทั้งคู่ประสงค์เดินทางไปโรงพยาบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยินดีที่จะอำนวยความสะดวก

โดยเบื้องต้นจากการประเมินผ่านภาพที่เผยแพร่จากสื่อต่างๆ ทั้งคู่มีความอ่อนเพลียประมาณร้อยละ 50 เท่าที่มองขณะนี้อยู่ในภาวะฉุกเฉิน เพราะไม่สามารถเคลื่อนไหวด้วยตัวเองได้ จึงประเมินเบื้องต้นว่าร่างกายทั้งสองคนไม่สามารถรับไหว ต้องเข้ากระบวนการรักษาโดยเร็ว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่ได้บังคับว่า ทั้งสองจะต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ หากประสงค์ไปโรงพยาบาลใด ก็พร้อมประสานงานให้ แต่ถ้าร่างกายอยู่ในขั้นวิกฤตมากแล้ว ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้ที่สุด

ขณะที่ กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ กล่าวว่า ทั้งสองคนต้องการทราบเหตุผลว่า เป็นแพทย์จากหน่วยงานใด และได้รับอนุมัติจากทั้งสองให้เข้าตรวจร่างกายแล้วหรือไม่ เพราะถือเป็นสิทธิในร่างกายของตัวเองซึ่งเป็นสิทธิส่วนบุคคล

ด้านพ.ต.ต.นพ.ปีเฉลิม ตอบกลับว่า ทีมแพทย์มาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหน้าที่ดูแลประชาชนทุกมิติ การเข้าไปตรวจร่างกายในวันนี้จะขออนุญาตก่อน จะไม่ทำโดยพลการ และหากไม่ได้รับอนุญาต ทางทีมแพทย์จะไม่เข้าไป โดยจะขอให้ทนายเป็นผู้ประสานให้

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามทนายความว่า ปัจจุบันอาการป่วยของตะวันและแบม มีผู้มาดูแลตลอดหรือไม่ กฤษฎางค์ กล่าวว่า อาการแต่ละวันมีการตรวจเรื่อยๆอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ส่วนตัวอยากให้ทั้งสองกลับเข้าสู่กระบวนการรักษา

จากนั้น เวลา 15.30 น. กฤษฎางค์ เผยว่า จากการพูดคุยกับตะวันและแบม ขณะนี้ทั้งคู่ยอมให้ทีมแพทย์เข้าไปตรวจสอบอาการเบื้องต้น แต่ให้เข้าไปแค่ 1 คนไม่ยินยอมที่จะให้เจาะเลือด วัดความดันหรือทำหัตถการใดๆ เพราะว่าพอมีประสบการณ์จากหมอที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ในการดูแลตัวเองเบื้องต้นแล้ว ส่วนสาเหตุที่ยอมเพราะว่าเห็นว่า แพทย์มีน้ำใจเข้ามาตรวจ แต่ยืนยันว่ายังคงไม่ต้องการเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล

ในเวลา 16.00 น. หลังการตรวจร่างกายเสร็จสิ้น กฤษฎางค์ กล่าวว่า ตนขอเป็นคนรายงานอาการป่วยเนื่องจากแพทย์ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลผู้ป่วยได้เพราะเป็นหลักจรรยาบรรณแพทย์ ตนในฐานะญาติจึงขอทำหน้าที่ ทั้งนี้แพทย์ได้ให้ความรู้การดูแลผู้ป่วย ว่าไม่ควรอดอาหารต่อเนื่องจากมีอาการอ่อนเพลีย ขาดน้ำ อาการแต่ละวันจะไม่คงตัวเนื่องจากเป็นลักษณะของอาการขาดสารอาหาร แต่ว่ายังมีการรับรู้ โต้ตอบได้

ที่ผ่านมาตนเองและครอบครัวแนะนำตะวันและแบมว่า ให้พิจารณาวิธีการต่อสู้เห็นความสำคัญชีวิตตัวเอง จากที่พูดคุยทั้งสองมีท่าทีสบายใจขึ้นหลังจากมีกระแสข่าวว่าจะสลายจุดที่ทำกิจกรรม ทั้งนี้ ทีมแพทย์จะนำผลการตรวจเยี่ยมไปประเมินเพื่อเตรียมพร้อมเครื่องมือทางการแพทย์สำหรับการรักษาในอนาคต

โดยหากทั้งสองเข้าสู่สภาวะวิกฤต ก็สามารถประสานโรงพยาบาลตำรวจได้ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อส่งตัวไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด แต่ถ้าอยู่ในจุดฉุกเฉินสามารถร้องขอเฮลิคอปเตอร์ให้มารับตัวได้

ด้าน พล.ต.ต.อัฏธพร กล่าวว่า ตำรวจมีการประสานความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร โดยมีสำนักงานเขตพระนคร เข้ามาดูแลเรื่องความสะอาด กวาดขยะในพื้นที่ชุมนุม ยืนยันไม่มีการใช้กำลังเข้ามากดดันผู้ทำกิจกรรมแต่อย่างใด เน้นที่การเตรียมพร้อมดูแลมากกว่า ส่วนที่มีผู้ไม่หวังดีเข้ามาสร้างสถานการณ์ ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบได้จัดกำลังเข้ามาดูแลเพิ่มเติมแล้ว

ต่อกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าสลายการชุมนุมบริเวณดังกล่าวเนื่องจากมีการเขียนป้ายระบุข้อความหมิ่นศาล ขอชี้แจงว่า เป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนกันระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุม เนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องการให้จุดพักของตะวัน และ แบมรวมถึงผู้ชุมนุมขยับไปที่ด้านหลังของอาคารศาลฎีกา เพื่อให้มีร่มเงา หลบแดดได้