วันที่ 19 พ.ค. ที่พรรคเพื่อไทย ชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษาด้านกฎหมายของพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พรรคก้าวไกลได้ส่งตัวร่าง MOU ในการจัดตั้งรัฐบาล ให้พรรคร่วมได้พิจารณาแล้ว ในส่วนของพรรคเพื่อไทย เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่า เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นนโยบาย จึงได้มอบหมายให้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ และประธานคณะกรรมการนโยบาย เป็นผู้ดูเบื้องต้น และประสานในการจัดทำ MOU เนื่องจาก นพ.พรหมมินทร์ เป็นผู้รับผิดชอบด้านนโยบายอยู่แล้ว 

อย่างไรก็ตาม ชูศักดิ์ ให้ความเห็นส่วนตัวว่า เมื่อพิจารณาเบื้องต้นมีความเห็นว่าหากจะนำนโยบายมาใส่ใน MOU ก็ควรใส่ให้ครบทุกพรรค ตนมองว่า ควรทำแค่เรื่องหลักการก่อน เช่น รับหลักการที่จะร่วมรัฐบาลด้วยกัน รับหลักการว่าเมื่อเป็นรัฐบาลแล้ว จะรวมนโยบายของแต่ละพรรคมาเป็นนโยบายรัฐบาล ก่อนแถลงต่อสภา เรื่องการบริหาร จัดแบ่งผู้บริหารกันอย่างไรตามความเป็นธรรม และจะทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ 

"MOU ควรจะเป็นแค่หลักการไปก่อน ในการร่วมกันในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีอย่างไร ไม่เช่นนั้นจะมัวแต่ไปยุ่งว่าจะใส่นโยบายของใคร อย่างไร เรื่องนี้ควรไปพูดคุยกันหลังจัดรัฐบาล ก่อนแถลงต่อสภาดีกว่า"

ชูศักดิ์ ยังระบุว่า MOU จะยังไม่มีเรื่องมาตรา 112 ว่า เข้าใจว่าจะพูดคุยเรื่องนี้ แต่สำหรับพรรคเพื่อไทย คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่สร้างความแตกแยกในสังคมมาก จึงอยากให้ไปคิดดูให้ดี

ชูศักดิ์ ยังยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยเรื่องการแบ่งกระทรวง ข่าวที่ออกมาก็เป็นแค่ข่าว คนในพรรคยังไม่ได้มีการพูดกันเรื่องนี้ และไม่อยากให้ปรากฎภาพว่ามีการแบ่งเค้กกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยสงวนท่าที ไม่ทำอะไรให้ล้ำหน้าเกินไป จนให้มีความรู้สึกว่าเราแบ่งขนมกัน ซึ่งพรรคระมัดระวังมากในเรื่องนี้ พร้อมทั้งปฏิเสธไม่ขอแสดงความคิดเห็นของกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะคุมกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ เพราะไม่ใช่พรรคแกนนำ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้า นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริเดช ประธานกรรมการเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้ประสานงานเรื่อง MOU ได้เดินทางมายังที่ทำการพรรคด้วยท่าทีเร่งรีบ โดยไม่ได้ให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับ MOU บอกแต่เพียงว่า "ขอดูก่อน"