พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. นัดสุดท้ายว่า หลายคนถามตนว่าจะโปรดเกล้าฯเมื่อไหร่ ขอให้ใจ ขั้นต่อตอนไป คือทำเรื่องขอวันเวลาเพื่อเข้าเฝ้าถวายสัตย์ ซึ่งยืนยันคำเดิมที่เคยระบุ ไว้ว่าทุกอย่างจะแล้วเสร็จไม่เกินกลางเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของรัฐบาลที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนหลังจากการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ตั้งใจจะพูดคุยกับรัฐมนตรี เหมือนเป็นการปฐมนิเทศ เพื่อพบปะหารือถึงแนวทางการทำงาน โดยจะใช้เวลาไม่มากนัก
"แผนที่วางไว้หลังพิธีถวายสัตย์ฯ หากไม่มีปัญหาอะไร สิ่งสำคัญคือเรื่องนโยบายของรัฐบาลที่วันนี้มีการหารือในระดับพรรคการเมืองต่างๆแล้ว ว่าจะสอดคล้องกันอย่างไร เพราะไม่ใช่จะเขียนจากของตนเพียงอย่างเดียว ต้องเป็นนโยบายของนักการเมืองต่างๆ รวมถึงให้นับนโยบายของฝ่ายค้านมาพิจารณาด้วย ว่า เรื่องใดตรงกัน ซึ่งบางอย่างได้ทำไปแล้ว แต่อาจได้ไม่มากเท่าที่ทุกคนต้องการ หรือ เท่าที่หาเสียงกันมา แต่ต้องให้ความเห็นเมื่อเป็นรัฐบาลแล้วทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบวงเงินงบประมาณที่มีอยู่ เชื่อว่าทุกพรรคการเมือง รักชาติและรักประชาชนเหมือนกันทั้งหมด" นายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่เหนื่อยเพราะชินแล้ว และทำมา 5 ปีแล้ว ถ้าจะมีในใจ คือ อยากจะทำอะไรให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ถ้าพูดถึงหลักการและนโยบาย ตนได้ทำเต็มที่แล้ว แต่บางเรื่องติดขัดด้วยกฎหมายและงบประมาณ ไม่เช่นนั้นอยากทำให้เร็ว ซึ่งทุกเรื่องต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องทุกรัฐบาล สิ่งสำคัญคือคนไทยของเราเองการจะพูดหรือแสดงความเห็นไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ ต้องคำนึงถึงประเทศไทยด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราเป็นประเทศอิสระมาช้านาน จึงไม่อยากให้ใครเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกระบวนการภายในของเรา โดยเฉพาะข้อกฎหมาย หากไปพูดในเรื่องไม่จริงและบิดเบือนก็ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ไม่มีความเชื่อมั่น และความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ อย่างไรก็ตามไม่ให้ความสำคัญเรื่องเหล่านี้มากนัก เพราะทุกอย่างได้ปรากฎแล้วในหลายเวทีที่เราได้รับการยอมรับจากต่างประเทศมากพอสมควร เพราะต่างประเทศเห็นผลงานการปฏิบัติในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำว่า ที่ผ่านมาได้แก้ไขปัญหาจำนวนมากถือว่าเป็นการปฏิรูปในสิ่งที่ไม่ได้แก้ไขมานาน แต่คนของเราเองอาจไม่เข้าใจ ซึ่งการปฏิรูปทางการเมืองไม่ใช่รัฐบาลทำอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของพรรคการเมือง และนักการเมืองที่ต้องพัฒนา ปรับปรุง คุณภาพ และบุคลิกต่างๆด้วย และอย่าใช้เวทีสภาผู้แทนราษฎร เป็นที่ล้มรัฐบาล แต่ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของชาติและประชาชนยิ่งกว่า
ขณะเดียวกันย้ำว่ายุทธศาสตร์เขียนไว้เป็นกรอบใหญ่ไม่ใช่การสืบทอดอำนาจ แต่เป็นการสืบทอดการแก้ไขปัญหาอย่างครบวงจร ทั้งนี้ในช่วงท้าย ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า สัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีอีกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า 'ไม่มีแล้วมั้ง'
ขณะเดียวกันพล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธตอบคำถามกรณีมีความเชื่อมั่นหรือไม่ว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะประกาศจะวางมือทางการเมือง โดยกล่าวว่า "ถามเขาสิ"