นายวัฒนา เมืองสุข กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ว่า รัฐธรรมนูญมีความจำเป็นต้องแก้ไข เพราะที่มาของรัฐธรรมนูญมีปัญหาไม่เคารพเจตนารมณ์ของประชาชน รัฐธรรมนูญปี2560 ยังเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ จะเห็นได้ว่ารัฐบาลมีถึง 19 พรรคการเมืองเข้าร่วม จึงขาดความเป็นเอกภาพทำให้การแก้ปัญหาเศรษฐกิจมีความยากลำบาก รัฐธรรมนูญยังนำไปสู่ความขัดแย้ง โดยเฉพาะขั้นตอนการได้มาของ ส.ส. ขั้นตอนการนับคะแนน ขณะที่แผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูปก็ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง

นายวัฒนา ระบุว่า พรรคเพื่อไทยได้รับมอบหมายให้ดูแลด้านเนื้อหาสาระที่จะแก้ไข ซึ่งเมื่อเริ่มมีความชัดเจนถึงกรอบการทำงานและจะเปิดเว็บไซต์ให้ประชาชนเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สำหรับการทำความเข้าใจกับประชาชนจะทำเป็น 2 รูปแบบรูปแบบที่ 1 จะเป็นการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นและ2จะใช้ช่องทางทางโซเชียลมีเดียของพรรค

ด้านนายโภคิน พลกุล กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เห็นว่า รัฐธรรมนูญต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่ร่างโดยประชาชน ประชาชนจะต้องเป็นผู้เลือกคณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญ โดยเบื้องต้นกำหนด บุคคลที่จะเข้ามาทำงานซึ่งจะ เป็นรูปแบบของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จำนวน 200 คน โดยจะเป็นตัวแทนของประชาชนแต่ละจังหวัด ซึ่งมีค่าเฉลี่ย ที่ประชากร 4 แสนคนต่อ ส.ส.ร.1 คน จะมีรูปแบบคล้ายกับรัฐธรรมนูญ ป��� 2540 

จากนั้นส.ส.ร.จะเป็นผู้เลือกคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ เบื้องต้นจะมี 29 คน เมื่อได้ตัวร่างแล้วจะมาขอความเห็นชอบกับ ส.ส.ร.จำนวน 200 คนอีกครั้ง และหาก ส.ส.ร. เห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญมีความสมบูรณ์แล้ว จึงจะส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาทำประชามติของความเห็นชอบจากประชาชนต่อไป

นายโภคิน ระบุเพิ่มเติมว่ากระบวนการจะเป็นรูปแบบของการเพิ่มช่องทางสำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากเดิมที่กำหนดไว้ 3 รูปแบบคือผ่านทางคณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา และการเข้าชื่อของประชาชน 5หมื่นรายชื่อซึ่งจะมีความล่าช้า

นายโภคินระบุว่า ช่องทางดังกล่าว จะให้สมาชิกรัฐสภาเข้าชื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เปิดแนวทางที่สี่ ตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนจะผ่านความเห็นชอบ จากพรรคฝ่ายรัฐบาล หรือสมาชิกวุฒิสภาหรือไม่ คงเป็นกระบวนการอีกขั้นตอนที่จะไปพูดคุยในสภา และจะมีการแก้ไขสาระสำคัญในประเด็นใดบ้างหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เป็นเรื่องของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งจะมาจากการรับฟังความเห็นของประชาชน