นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุภายหลังประชุมเพื่อหารือเตรียมอภิปรายในวันแถลงนโยบายของรัฐบาลที่สภาฯ
โดยนายอนุสรณ์ กล่าวว่าจากการดูนโยบายของรัฐบาลไม่แน่ใจ ว่าเป็นเอกสารนโยบายรัฐบาลหรือไม่ เนื่องจากดูแล้วเหมือนโบวชัวร์โฆษณาที่เอานโยบายของแต่ละพรรคตอนหาเสียงมารวมกัน โดยบางสิ่งเป็นนโยบายที่ย้อนแย้งกันและกัน ย้ำว่าพรรคเพื่อไทยจะอภิปรายด้านนโยบายเป็นหลักแน่นอน และมองว่าการแถลงนโยบายเป็นการตรวจสอบสัญญาประชาคมที่เคยให้ไว้กับประชาชน นอกจากนี้ นโยบายที่ระบุไว้ก็เป็นการเขียนไว้แบบกว้างๆ ขณะเดียวกันพรรคเพื่อไทยก็มีสิทธิอันชอบธรรมในการอภิปรายประเด็นคุณสมบัติของผู้ที่เป็นรัฐมนตรี
ส่วนกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหมเดินทางไปร่วมงานสัมมนา ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ โดยเฮลิคอปเตอร์ จึงตั้งคำถามว่า พล.อ.ประวิตรไปทำไม เกี่ยวข้องอะไรกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งอาจเข้าข่ายการครอบงำพรรคการเมือง อีกด้วยขณะที่กรณีของรีสอร์ท ที่พรรคพลังประชารัฐใช้สัมมนานั้นมีปัญหาด้านที่ดิน ส.ป.ก. มองว่าเป็นการสนับสนุนธุรกิจที่มีปัญหาเรื่องคดีความ ดังนั้นจะให้ประชาชนไว้ใจได้อย่างไร จากกรณีดังกล่าวจะถูกนำประเด็นทั้ง 3 เข้าไปสู่ที่ประชุมสภาฯ อย่างแน่นอน
นายอนุสรณ์ ย้ำถึงการอภิปรายตรวจสอบเรื่องคุณสมบัติและการทุจริตในรัฐบาลชุดที่แล้วต่อเนื่องมาชุดใหม่นั้น โดยเฉพาะรัฐมนตรี 3 ป. ว่าการพรรครัฐบาลตั้งหน่วยองค์รักษ์ขึ้นมา ไม่ใช่เพียงแค่2ป. ที่จะถูกอภิปราย แต่ป.ที่3 ก็จะมีการอภิปรายตรวจสอบการทุจริตอย่างแน่นอน
ด้านนายสุทิน บอกว่า ในส่วนของรูปเล่มนโยบายส่วนตัวดูแล้วพบว่า เนื้อหานั้นขัดรัฐธรรมนูญ และบางเรื่องที่ต่างชาติสนใจในนโยบายนึงแต่รัฐบาลไม่ได้เขียนไว้เลย ส่วนตัวมองว่าจะกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน อย่างแน่นอน ซึ่งรายละเอียดขอให้ติดตามในวันแถลงนโยบาย ส่วนความพร้อมในการจัดตัวผู้อภิปราย โดยพรรคดำเนินการไปกว่า80% กลุ่มหลักเป็นเรื่องการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี และกรณีการทุจริต ซึ่งผู้อภิปรายระดับหัวจะประกอบด้วย อาทิ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย เป็นต้น นอกจากนี้ยัง ประกอบด้วยคณะอภิปรายด้านอื่นๆรวมทั้งหมด 6 ด้าน ซึ่งมีผู้อภิปรายจากพรรคเพื่อไทยทั้งหมด 55 คน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง