ไม่พบผลการค้นหา
มาเลเซียทุ่มงบมากกว่า 15,000 ล้านบาท สั่งวัคซีนโควิด-19 เพื่อให้ถึงเป้าการครอบคลุมประชากร 83% โดยล็อตล่าสุดสั่งเพิ่มไปแล้วอีก 6.4 ล้านโดส จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 12.8 ล้านโดส คาดจะสามารถลงนามกับบริษัทของจีนและรัสเซียเพิ่มได้อีกเร็วๆ นี้

​มูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีมาเลเซียประการผ่านการแถลงข่าวในวันที่ 22 ธ.ค.ว่าขณะนี้รัฐบาลของประเทศมาเลเซียได้ ลงนามในสัญญาการจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 เพิ่มเติมอีก 6.4 ล้านโดส จากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ท่ามกลางการระบาดอย่างต่อเนื่องของโควิด-19 ในประเทศมาเลเซียที่ตอนนี้เริ่มเข้าสู่ระรอกที่ 3 แล้ว ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 95,327 คน ผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 438 ราย และมีจำนวนผู้ที่หายป่วยแล้วราว 78,393 คน

ก่อนหน้านี้ในเดือน พ.ย.รัฐบาลมาเลเซียได้ทำการสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 ไปแล้วหนึ่งครั้งจากบริษัท ไฟเซอร์ ไบโอเอ็นเทค จำนวนทั้งสิ้น 12.8 ล้านโดส ทำให้ขณะนี้มาเลเซียกำลังจะได้ครอบครองวัคซีนโควิด-19 รวม 19.2 ล้านโดส ซึ่งในจำนวนนี้สามารถครองคลุมประชากรทั้งประเทศได้ราว 40% และมีการทุ่มงบประมาณไปแล้วทั้งสิ้นอย่างน้อย 504.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 15,242.46 ล้านบาท

นายกรัฐมนตรีมาเลเซียตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องจัดหาวัคซีนให้สามารถครอบคลุมประชากรให้ได้อย่างน้อย 83% นั่นหมายความว่ามาเลเซียจะต้องเร่งจัดหาวัคซีนเพิ่มอีกเท่าตัว ซึ่งล่าสุดรัฐบาลของมาเลเซียได้มีการเริ่มเจรจากับบริษัท Sinovac และ CanSino Biologics ของจีนและสถาบัน Gamaleya Institute ของรัสเซียเพิ่มเติมเพื่อทำการซื้อวัคซีนล็อตต่อไป อีกทั้งยังได้มีการเข้าร่วมโครงการ COVAX ขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO เพื่อรับวัคซีนเพิ่มอีกด้วย

หลังการควบคุมการระบาดได้ยาวนานหลายเดือน มาเลเซียต้องเผชิญกับการระบาดใหม่ในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา เมื่อมีการเลือกตั้งท้องถิ่นในบอร์เนียว รัฐซาบาห์ ส่งผลให้เชื้อไวรัสแพร่ระบาดไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์และพื้นที่รอบข้างอย่างรวดเร็ว โดยมีจุดระบาดหนักในเรือนจำ สถานที่กักกัน และโรงงาน รวมถึงพื้นที่ของหอพักพนักงานที่เป็นชาวต่างชาติของบริษัท Top Glove ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตถุงมือที่ใช้ในทางการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก