ไม่พบผลการค้นหา
WHO ยืนยัน ไม่พบหลักฐานบ่งชี้ว่า 'วัคซีนแอสตราเซเนกา' ส่งผลเกิดอาการข้างเคียงรุนแรงที่ทำให้เสียชีวิต

องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงยืนยันว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกา ซึ่งวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดนั้น ยังคงสามารถใช้งานได้ และปัจจุบันยังไม่พบ "หลักฐานบ่งชี้อย่างเป็นทางการ" ว่าวัคซีนชนิดดังกล่าว ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงที่ทำให้เสียชีวิต

ในการแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ พญ.มาร์กาเร็ต แฮร์ริส โฆษกประจำอนามัยโลก กล่าวถึงกรณีที่หลายชาติโดยเฉพาะในยุโรป ระงับการใช้งานวัคซีนชั่วคราว หลังจากที่เดนมาร์กเปิดเผยรายงานว่า พบกรณีผู้ได้รับวัคซีนเกิดอาการเลือดแข็งตัวในเส้นเลือดดำ และลิ่มเลือดอุดตัน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของอนามัยโลกกำลังดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด ว่าวัคซีนดังกล่าวมีส่วนทำให้เกิดอาการลิ่มเลือดอุดตันจริงหรือไม่ แต่ขณะนี้ทางอนามัยโลกมองว่า "ยังไม่มีความจำเป็น" ที่ต้องระงับใช้วัคซีนดังกล่าวของแอสตรา โดยผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องของอนามัยต่างลงความเห็นว่า วัคซีนแอสตรายังคงสามารถ "ใช้งานต่อได้" และปัจจุบันยังคง "ไม่มีการยืนยันใดๆ อย่างเป็นทางการ" ว่าวัคซีนส่งผลให้เกิดอาการข้างเคียงรุนแรง

แถลงการณ์ของอนามัยโลก สอดคล้องกับคำแถลงขององค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ที่ชี้แจงก่อนหน้านี้ว่า ยังไม่พบข้อบ่งชี้ว่าวัคซีนแอสตราเซเนกา เชื่อมโยงการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ยืนยันยังคงใช้งานต่อได้ และจาก EMA จะดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว

อย่างน้อยห้าประเทศในยุโรปรวมถึง เดนมาร์ก นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ ได้ระงับการใช้วัคซีนแอสตรา ขณะที่นอกเหนือจากกลุ่มประเทศในยุโรปแล้ว ประเทศไทยและสาธารณรัฐคองโก ถือเป็นประเทศนอกยุโรปกลุ่มแรกที่ยุติการใช้งานวัคซีนโควิดของแอสตราแล้ว หลังมีรายงานจากเดนมาร์ก โดยคองโกได้รับวัคซีนแอสตราฯ จำนวน 1.7 ล้านโดสผ่านโครงการโคแว็กซ์ (COVAX) 

สำหรับกลุ่มสหภาพยุโรป มีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดของแอสตราฯ แล้วราว 5 ล้านคน จำนวนนี้พบกรณีเชื่อมโยงลิ่มเลือดอุดตันจำนวน 30 คน แต่ยังไม่พบกรณีลักษณะคล้ายกันในกลุ่มประเทศเอเชีย

ด้าน นพ.เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการอนามัยโลก กล่าวว่า "จนถึงขณะนี้ คนทั่วโลกรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปแล้วกว่า 335 ล้านโดส และยังไม่พบการเสียชีวิตที่เกิดจากวัคซีน" ทั้งนี้ วัคซีนป้องกันโควิดของแอสตราเซเนกา เป็นหนึ่งในวัคซีนที่เข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ของสหประชาชาติด้วย


รับรองวัคซีน 'เข็มเดียว' จาก 'จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน'

ขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลกได้ออกแถลงการณ์รับรองกรณีฉุกเฉินของวัคซีน "Ad26.COV2.S" หรือ "JNJ-78436735" ที่พัฒนาโดยบริษัทจอห์สัน แอนด์ จอห์นสัน นับเป็นวัคซีนป้องกันโควิดจากผู้ผลิตรายที่ 3 ซึ่งอนามัยโลกรับรองให้ใช้ต่อจากวัคซีนของไฟเซอร์ และแอสตราเซเนกา

ความต่างจากวัคซีนจากผู้ผลิตสองรายก่อนหน้าคือ วันซีนจอห์นสันเป็นวัคซีนป้องกันโควิดที่ฉีดเพียงเข็มเดียวเท่านั้น โดยจากข้อมูลการทดลองทางคลินิกแบบเป็นวงกว้างในกลุ่มอาสาสมัครทั่วทุกภูมิภาครวม 39,321 คน พบว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคแบบมีอาการรุนแรงได้ถึง 85.9% จาการทดสอบในสหรัฐอเมริกา 81.7% ในแอฟริกาใต้ และ 87.6% ในบราซิล และมีประสิทธิภาพป้องกันโรคในผู้มีอาการปานกลางที่เฉลี่ย 66% เป็นอีกหนึ่งวัคซีนที่รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมใช้งานแจกจ่ายแก่ประชาชนในวงกว้าง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: