ไม่พบผลการค้นหา
บัญชีผู้ใช้จำนวนกว่า 10 ล้านบัญชีเห็นพ้องในการโหวตโพลของ อีลอน มัสก์ ว่า มัสก์ควรลงจากเก้าอี้การเป็นผู้บริหารสูงสุดของทวิตเตอร์ หลังจากมัสก์เองเปิดโพลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (18 ธ.ค.) เพื่อถามว่า เขาควรออกจากการเป็นผู้บริหารสูงสุดของทวิตเตอร์หรือไม่

อย่างไรก็ดี มัสก์ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีผู้เข้าซื้อกิจการของทวิตเตอร์ไปเมื่อ 50 วันที่ผ่านมา และแต่งตั้งให้ตัวเองเป็นผู้บริหารสูงสุดแต่เพียงผู้เดียว ยืนยันว่าทวิตเตอร์ไม่มีผู้มาสืบทอดเก้าอี้ผู้บริหารสูงสุดต่อจากตัวเขาเอง “ไม่มีใครก็ตามที่อยากจะทำให้ทวิตเตอร์มีชีวิตอยู่รอดต่อไปที่อยากจะเข้ามารับงานนี้” มัสก์ระบุก่อนย้ำว่า “มันไม่มีผู้มาสืบทอดตำแหน่ง”

มัสก์ยังตอบกลับกับบัญชีผู้ใช้รายหนึ่ง ที่อาสาตัวว่าตัวเองสามารถทำงานนี้แทนได้ว่า “คุณต้องชอบความเจ็บปวดมาก เว้นแต่ว่าคุณต้องลงทุนด้วยเงินออมในชีวิตของคุณในทวิตเตอร์ และอยู่ในช่องทางด่วนสู่การล้มละลายตั้งแต่เดือน พ.ค. ยังอยากได้งานนี้อยู่ไหม” มัสก์ถามบัญชีผู้ใช้รายดังกล่าว

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มัสก์ถามผู้ใช้ทวิตเตอร์ว่าเขาควรลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าบริษัทหรือไม่ โดยมัสก์สัญญาว่าเขาจะปฏิบัติตามผลสำรวจความคิดเห็นของตัวเองต่อผู้ใช้ทวิตเตอร์ ทั้งนี้ ผลโพลที่ปิดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (19 ธ.ค.) มีผลที่ 57.5% ของผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่บอกว่าเขาควรลงจากตำแหน่ง อย่างไรก็ดี ในฐานะเจ้าของส่วนใหญ่ของบริษัทเอกชน ไม่มีใครสามารถบังคับมัสก์ให้ออกจากตำแหน่งได้ 

การตัดสินใจแบนบัญชีที่ติดตามตำแหน่งของเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของเขาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามมาด้วยการระงับบัญชีผู้สื่อข่าวสายวิจารณ์ตัวเขาเองจำนวนมาก ที่รายงานเกี่ยวกับการแบนบัญชีของทวิตเตอร์ นำไปสู่การที่ผู้ใช้บางส่วนเปลี่ยนไปใช้โซเชียลมีเดียอื่น ๆ แทนทวิตเตอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแพลตฟอร์มใหม่อย่างมาสโตดอน ซึ่งเป็นคู่แข่งของทวิตเตอร์ ที่ถูกทวิตเตอร์แบนบัญชีผู้ใช้คู่แข่งบนแพลตฟอร์มของตัวเองด้วย

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มัสก์โต้ตอบด้วยการแบนลิงก์ทั้งหมดที่เชื่อมไปยังโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่นๆ รวมถึง มาสโตดอน อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก และแม้แต่แพลตฟอร์มย่อยๆ เช่น นอสตร์ ที่ แจ็ก ดอร์ซี ผู้ก่อตั้งทวิตเตอร์ใช้ และ ลิงก์ทรี อย่างไรก็ดี การแบนดังกล่าวถูกยกเลิกในช่วงสิ้นวัน หลังจากการสำรวจความคิดเห็นของทวิตเตอร์จากบัญชี Twitter Safety โดยมักส์กล่าวว่า “นับจากนี้จะมีการลงคะแนนเสียงสำหรับการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่สำคัญ ผมขอโทษด้วย มันจะไม่เกิดขึ้นอีก”

มัสก์เคยมีประวัติการใช้แบบสำรวจความคิดเห็นของทวิตเตอร์ เพื่อรับรองเป็นมติในการตัดสินใจครั้งสำคัญ โดยเขาเคยขายหุ้น 1 ใน 10 ของเทสลาของเขาเอง หลังจากการสำรวจในทวิตเตอร์พบว่าคนส่วนใหญ่ต้องการให้เขาขายหุ้นเทสลาของตัวเอง นอกจากนี้ มัสก์ยังกู้คืนบัญชีของ โดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากผลสำรวจของเขาในทวิตเตอร์เมื่อเดือนที่แล้วรับรองความคิดดังกล่าว และกู้คืนบัญชีที่ถูกระงับจำนวนหนึ่งเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี มีการวิจารณ์ว่า มติใดๆ ที่มัสก์เปิดให้มีการโหวตในทวิตเตอร์ ล้วนเป็นสิ่งที่เขาตัดสินใจจะทำอยู่แต่แรกก่อนการเปิดโหวตแล้ว


ที่มา:

https://www.theguardian.com/technology/2022/dec/19/elon-musk-says-step-down-twitter-ceo-poll-tesla?CMP=Share_iOSApp_Other&fbclid=IwAR2g8D-fAQWk_PGQH6Bh2drp-zT4TI9Y_OUKysgPFwI-brAzlAOulwjtvHQ