ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดเชียงรายกำหนดจัดแถลงข่าวส่งน้องๆ ทีมหมูป่ากลับบ้าน วันที่ 18 ก.ค.นี้ เวลา 18.00 น. (ช่วงรายการเดินหน้าประเทศไทย) จัดที่ห้องประชุมคชสาร องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พร้อมขอความร่วมมือสื่อมวลชนส่งคำถามที่ต้องการถามทีมหมูป่าล่วงหน้า เพื่อให้นักจิตวิทยาคัดกรองความเหมาะสมว่าสามารถให้ตอบได้หรือไม่ เพราะยังต้องระมัดระวังในเรื่องของจิตใจ
ส่วนที่กองพันเสนารักษ์ที่ 3 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา กองพลทหารเสนารักษ์ที่ 3 กว่า 50 นาย จัดแถวต้อนรับการเดินทางกลับหน่วย ของ พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน ผู้บังคับการกองพันเสนารักษ์ที่ 3 ภายหลังจากที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือเยาวชนทีมหมูป่า อะคาเดมี โดยเมื่อ พ.ท.นพ.ภาคย์ เดินทางมาถึง ได้ไปไหว้ศาลปู่ประยุทธ-ศาลปู่ดำ สิ่งศักดิ์สิทธิ์หน้าหน่วย หลังจากนั้นมีพิธีตั้งแถวรายงานจำนวนกำลังพล และรายงานการปฏิบัติงานในหน่วยกองพันเสนารักษ์ที่ 3 จากนั้นกำลังพลพร้อมใจกันส่งเสียง “ฮูยาห์ๆ” ซึ่งเป็นคำประกาศชัยชนะของหน่วยซีล ก่อนที่ตัวแทนกำลังพลจะนำช่อดอกไม้มามอบให้ เพื่อเป็นการต้อนรับกลับเข้าสู่หน่วยอีกครั้ง
พ.ท.นพ.ภาคย์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมีครั้งนี้ ถือเป็นการกู้ภัยในถ้ำเป็นครั้งแรกในโลก ที่มีหลายหน่วยงานจากทั่วโลกเดินทางมาช่วยเหลือ เป็นประสบการณ์ที่สำคัญให้กับการปฏิบัติงานกู้ภัยลักษณะนี้ให้กับคนทั้งโลก ทั้งนี้จากการได้อยู่กับเด็กๆ ในถ้ำหลายวัน ได้สัมผัสว่าเด็กทั้ง 12 คน รวมทั้งโค้ชเอก เป็นคนที่มีจิตใจดีงาม ใส่ซื่อ ไร้เดียงสา ตามประสาเด็กๆ และที่สำคัญทุกคนมีวินัยมาก สังเกตได้จากตอนที่กินอาหารเสร็จแล้ว ทุกคนจะนำเศษอาหาร เศษขยะ ไปทิ้งในถุงดำเดียวกันทั้งหมด
จากการสอบถามเด็กๆ บอกว่า ตอนเข้าไปเที่ยวในถ้ำนั้นทุกคนไปเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ ไม่มีการเก็บหิน หรือของที่อยู่ในธรรมชาติให้เกิดความเสียหายเลย และตั้งใจว่าจะเข้าไปทำกิจกรรมเพียงแค่ 1 ชั่วโมงจะกลับออกมาเท่านั้น ส่วนโค้ชเอกถือเป็นเยาวชนที่ยอดเยี่ยมมาก แม้อายุเพียงแค่ 24-25 ปี สามารถเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเด็กๆ ทั้ง 12 คนได้เป็นอย่างดีเยี่ยม เพราะได้อบรมเด็กๆ ทุกคนหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการอยู่อย่างไรในช่วงที่ขาดอาหาร สอนให้รู้จักการเสียสละ โดยที่ไม่ต้องพูด เพราะตนสังเกตเห็นแอบเอาอาหารที่เป็นส่วนของตัวเอง ไปให้เด็กๆ ได้กินอิ่มก่อน รวมทั้งสอนให้ทุกคนมีความหวังเสมอ และมีระเบียบวินัยด้วย แม้ว่าจะอยู่ในถ้ำ โดยสังเกตจากการที่เด็กๆ จะช่วยกันนำก้อนหินไปขุดโพรงลึกถึง 5-6 เมตรทุกเช้า แม้จะไม่ได้กินอาหาร
นอกจากนี้เด็กๆ ทุกคนจะเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี โดยจะพูดคุยแต่เรื่องที่สร้างสรรค์ เช่น ออกไปแล้วอยากจะไปเที่ยวที่ไหน อยากจะกินอาหารอะไรกันบ้าง ซึ่งถือว่าสิ่งนี้สำคัญมากต่อสุขภาพกายและใจ พวกเขามีสิ่งที่วิตกอยู่เรื่องเดียว คือกลัวว่าออกไปแล้ว จะทำการบ้านที่ค้างอยู่ส่งครูไม่ทันเพื่อน ดังนั้นทั้งหมดต้องยกความดีให้กับโค้ชเอก ที่สามารถสั่งสอนเด็กๆ ให้มีสติ มีความหวัง และมีระเบียบวินัย จนสามารถอยู่รอดได้ถึงวันที่ออกจากถ้ำครั้งนี้
ส่วนกรณีที่ทางจังหวัดนครราชสีมา จะจัดพิธีต้อนรับนั้น ขณะนี้ได้รับการติดต่อจากนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เบื้องต้นทราบว่าจะจัดพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 26 ก.ค. นี้ ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี