นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกด อัคฮาด หรือน้องเกด พยาบาลอาสา ผู้เสียชีวืตที่วัดปทุมวนาราม พร้อมนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทีมทนายความญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ จากการสลายการชุมนุม ปี 2553 ยื่นหนังสือให้อัยการสูงสุด หรือ อสส.ติดตามคดีที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ส่งสำนวนมาให้ อสส. แต่ไม่มีความคืบหน้า โดยมีนายประยุทธ เพชรคุณ อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษและรองโฆษก อสส.รับหนังสือ
จากหลายคดีที่ศาลได้มีการไต่สวนการตายของประชาชนจากการใช้กำลังทหารเข้าสลายการชุมชุนม ที่ระบุถึงการปฏิบัติราชการตามหน้าที่หรือตายระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติตามหน้าที่ และต่อมา DSI ได้สอบสวนการกระทำความผิดหลายสำนวนเป็นคดีอาญาส่ง อสส.
นางพะเยาว์ กล่าวว่าคดีนี้นอกจากมีความล่าช้ามากแล้ว ยังเห็นว่ามีทหารหลายนายที่อยู่ใน ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. ที่เกี่ยวข้องกับการนำกำลังพลพร้อมอาวุธสงครามปราบปรามประชาชนได้ดิบได้ดี หลายคนเป็นรัฐมนตรี หรือดำรงตำแหน่งระดับสูงของกองทัพ
พร้อมถามถึง"สภากลาโหม" ที่ไม่คำนึงถึงจิตใจของญาติผู้ตาย และความเคลือบแคลงสงสัยที่คดีไม่มีความคืบหน้า ซึ่งเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่ ป.ป.ช.ตีตกไป ซึ่งทำร้ายจิตใจผู้สูญเสียมากพออยู่แล้ว จึงขอให้ อสส.ทำเรื่องนี้ให้เกิดความยุติธรรม เพราะมีคนตายคนบาดเจ็บจำนวนมากกลางเมืองหลวง แต่หาผู้กระทำความผิดไม่ได้
ด้านนายวิญญัติ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ว่ามีกลุ่มผู้ถูกกล่าวหาแทรกแซงการทำหน้าที่ของพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบให้มีคำสั่งให้ยุติการสอบสวน จึงขอให้ อสส.สอบสวนว่าเหตุใดจึงมีคำสั่งย้ายอัยการฝ่ายผู้รับผิดชอบคดีการตายและผู้บาดเจ็บเพื่อรักษาความยุติธรรม 2) เร่งรัดสรุปสำนวนคดีเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในคดี 6 ศพวัดปทุมฯและคดีนายพัน คำกอง ซึ่งมีความชัดเจนมาก 3) เร่งรัดสรุปสำนวนคดีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุมทุกคดีเพื่อส่งฟ้องผู้กระทำความผิดต่อศาล
ส่วนคดีที่ ป.ป.ช.ตีตกไป เป็นส่วนของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผอ.ศอฉ.แต่อีกหลายคดีและที่คณะมาเร่งรัด อสส.วันนี้ เป็นคนละส่วนกัน ถือเป็นคดีฆาตกรรม เกี่ยวข้องกับผู้บังคับบัญชาในเหตุการณ์หรือผู้คุมกำลังพลระดับปฏิบัติการ
อ่านเพิ่มเติม