พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงานทศวรรษที่ 3 กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ภายใต้แนวคิด มุ่งสร้างคุณค่า สู่อนาคตที่ยั่งยืน พร้อมมอบรางวัลกองทุนหมู่บ้านและชุมชนตัวอย่าง โดยมี สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมด้วย
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายว่า ดีใจที่ได้มาพบกับบรรดาสมาชิกกองทุนหมู่บ้านอีกครั้งหนึ่ง จากที่ได้รับฟังในรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ ต้องการให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าให้ได้ด้วยใครด้วยพวกเรานี่แหละ ที่อยู่ฐานราก ไม่ใช่เมียไม่มีโอกาสจะพัฒนาอะไรเลยรัฐบาลจำเป็นต้องดูแลตรงนี้ให้กับท่านให้ท่านมีกำลังในการผลิตในการซื้อในการขาย เป็นจำนวนมากมหาศาลที่รออยู่ รายได้ทั้งหมดจะถูกหมุนเวียนด้วยพวกเรา ฝากย้อนดูกองทุนหมู่บ้านก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 3 และมีกองทุนหมู่บ้านมาแล้ว 20 กว่าปี เราต้องตั้งไว้ตามเจตนารมณ์เดิม สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน
โดย นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องการให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศของเรา มีผืนดิน ผืนน้ำดีพอสมควร และบางพื้นที่จะมีปัญหาอยู่บ้าง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราจะต้องจัดระเบียบตรงนี้ให้ได้ทุกคนต้องมีผลประโยชน์ส่วนร่วม และจะทำอย่างไรให้คนกลับบ้านกลับไปภูมิลำเนาของตนเอง ลูกหลานจะได้เห็นอนาคต ผมอยากเห็นภาพนี้ พยายามทำมาหลายปีพอสมควรแต่วันนี้ประกาศเจตนารมณ์แล้วว่าจะทำตรงนี้ ทำให้รายได้สูงขึ้น เพื่อพัฒนาท้องถิ่นให้ได้ เราตั้งมาเกือบ 30 ปีแล้วแน่นอนว่าจะต้องมีปัญหาปัญหามีไว้แก้ พยายามแก้ไขปัญหาด้วยความสุจริตใจ แก้ไขปัญหาพุ่งเป้าตามระยะ สิ่งสำคัญที่สุดที่ตนกังวลคือปัญหาหนี้สินครัวเรือน และหลายกระทรวงก็ทำอยู่ในตอนนี้เพื่อจะไม่ให้เดือดร้อนมากนักแต่อย่างไรก็ตามก็เป็นหนี้ที่ต้องชำระ
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่าภายในกองทุนหมู่บ้านมีจำนวนสมาชิกกว่า 13 ล้านคนนั้น ซึ่งจะทำอย่างไรให้ดีขึ้นหาก ยังไม่ดีวัตถุประสงค์ของกองทุนก็ยังไม่ถึงเป้าหมาย ต้องหาวิธีการที่ปรับเปลี่ยนไป เราจะต้องทำทุกอย่างให้เข้มแข็งขึ้นเศรษฐกิจฐานรากทำอย่างไรให้สัดส่วน GDP ในเรื่องนี้สูงขึ้น ตั้งแต่ระดับฐานรากจนถึงประเทศ
วันนี้นอกจากที่ทำสิ่งเดิมๆก็มีดิจิทัลและเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อเพิ่มมูลค่า เพื่อผลิตจำหน่าย แปรรูป วันนี้เส้นทางคมนาคมขนส่งก็ดีขึ้นกว่าเดิมหลายคนอาจมองไม่เห็นว่าทำอะไรไปแล้วบ้าง นี่คือสิ่งที่ทำให้เราเข้าถึงการเท่าเทียมทางโอกาสลดภาระเรื่องค่าใช้จ่าย
โดยช่วงหนึ่ง นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการวัวล้านตัวว่า เราเคยเลี้ยงวัวเคยมีโครงการต่างๆในอดีตที่ผ่านมาต้องมาทบทวนว่ามีปัญหาตรงไหน ได้ไปเลี้ยงไปไม่ใช่ 3 วันดี 4 วันไข้ 5 วันตาย อย่างไรเขามีชีวิต มีบุญคุณต่อเรา เราค้องดูแลเขาให้ดีที่สุด หลายอย่างต้องปรับเปลี่ยนแล้วทำมา 20 ปี ส่วนระบบสวัสดิการรัฐบาลให้เพิ่มเติมในภาพรวมอยู่แล้ว แต่ทุกอย่างต้องเกิดจากความร่วมมือของทุกคนเป็นขั้นตอนและมีระยะเนื่องจากมีรายได้อยู่เท่านี้ ส่วนหนึ่งสามารถดูแลตัวเองได้ส่วนของรัฐบาลก็ให้การช่วยเหลือ เจอรัฐบาลมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับพวกเราระเบิดจากข้างใน ที่เหลือก็คือในพื้นที่นั่นคือการระเบิดจากข้างในตามแนวทางของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมารัฐบาลมีความพยายามอย่างยิ่งยวดทำให้ประชาชนมีรายได้สูงขึ้นนี่คือหนึ่งในยุทธศาสตร์ของเราในการลดความเหลื่อมล้ำสร้างความเป็นธรรม หากไม่มียุทธศาสตร์ก็เดินหน้าเป๊ะปะไปเรื่อย นั่นคือหลักการสำคัญที่เราต้องช่วยกันทำไม่มีอะไรทำสำเร็จด้วยคนๆเดียวไม่ว่าผมรองนายก หรือ อนุชา ทุกคนต้องร่วมมือกันทำในสิ่งที่ดีที่งามเราต้องจับมือกันเดินไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง สิ่งสำคัญคือความรักความสามัคคี ความปรองดอง เราต้องต่อสู้กันต่อไปด้วยความรักเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนถ่ายทอดสู่ลูกหลานเราไม่ทำวันนี้แล้วใครจะทำลูกหลานก็จะเจอปัญหาเดิมๆอยู่กับเราว่าจะช่วยกันทำได้อย่างไร
หลังเปิดงาน นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมบูธแสดงสินค้า ชิมอาหารต่างๆ โดยมีกลุ่มกองทุนหมู่บ้านชาวสุราษฎร์ธานีบอกให้ “นายกฯสู้ๆ เป็นกำลังใจให้” หลังจากนั้นนายกได้ยกนิ้วโป้ง(เยี่ยมๆ) ให้กับชาวบ้าน จากนั้น นายกฯทำท่าสัญลักษณ์วัยรุ่นวายทูเค (Y2K ) ส่งให้ชาวบ้านที่มาให้กำลังใจ คาดว่าเป็นนายกรัฐมนตรีจำท่ามาจากการถ่ายรูปกับกลุ่มยุวทูตในงานช่วงเช้าที่นายกไปเป็นประธาน
หลังจากนั้น นายกฯได้เยี่ยมชมบูธต่อ จนมาถึงนิทรรศการโครงการวัวล้านตัว โดยได้ลูบหัววัว และเคาะหัววัวเบาๆ พร้อมสอบถามกับเจ้าหน้าที่ถึงโครงการดังกล่าวและการเลี้ยงวัว ระหว่างนี้มีชาวบ้านมาขอถ่ายรูปกับนายกรัฐมนตรี โดยนายกฯได้ย่อเข่าถ่ายรูปด้วยพร้อมแซวชาวบ้านว่า “พอฉันย่อก็ย่อตามฉัน” เรียกเสียงหัวเราะจากคนที่มาถ่ายรูปด้วย
เป็นที่สังเกตว่าวันนี้นายกรัฐมนตรีอารมณ์ดีตั้งแต่เช้าและมีท่าถ่ายรูปใหม่ๆ แนวน่ารัก เช่น ท่าวายทูเค ดอกไม้บานโดยก่อนเดินทางกลับผู้สื่อข่าวได้สอบถามท่าโพสต์ของนายกฯรัฐมนตรีว่าคือท่าอะไร โดยนายกรัฐมนตรีหันมาตะโกน พร้อมโพสต์ท่า ว่า Y2K