สภาสูงของสหรัฐฯ ลงมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีด้วยคะแนนเสียง 51 ต่อ 49 เสียง ที่จะมีผลให้ภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลงอย่างมาก ซึ่งถือเป็นการปรับโครงสร้างภาษีครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ นับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1980 โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้องการให้มาตรการภาษีนี้มีผลบังคับใช้ภายในสิ้นปีนี้
การผ่านร่างกฎหมายตัดลดภาษีถือเป็นการปูทางไปสู่ชัยชนะทางนิติบัญญัติครั้งแรกของนายทรัมป์ จากที่ผ่านมา ส.ว.ฝ่ายอนุรักษ์ในพรรครีพับลิกันมักไม่ค่อยเห็นด้วยกับนโยบายหลายข้อของนาย ทรัมป์ โดยหลังจากนี้ สภาสูงจะนำร่างกฎหมายดังกล่าวไปรวมกับร่างกฎหมายที่ผ่านสภาล่างไปแล้วเมื่อเดือนก่อน แล้วจึงค่อยนำไปให้นายทรัมป์ลงนามบังคับใช้กฎหมาย
ด้านพรรคเดโมแครตวิพากษ์วิจาร์ณว่า ร่างกฎหมายนี้เอื้อประโยชน์ให้กับคนรวยและธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น นอกจากนี้ยังอาจทำให้งบประมาณขาดดุลเพิ่มขึ้น 1 ล้านล้านดอลลาร์หรือประมาณ 32.6 ล้านล้านบาท แต่พวกเขาก็คัดค้านกฎหมายนี้ไม่สำเร็จ เนื่องจากพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรส
เทป อ่านต่อ
Note: USA-TRUMP/TAX-, USA- TAX/ TRUMP -ARRIVAL , USA- TAX /SENATE *คนที่ปล่อยเสียงเป็นพรรคเดโมแครต,
สภา สูงของสหรัฐฯ ลงมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีด้วยคะแนนเสียง 51 ต่อ 49 เสียง ที่จะมีผลให้ภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลงอย่างมาก ซึ่งถือเป็นการปรับโครงสร้างภาษีครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ นับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1980 โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้องการให้มาตรการภาษีนี้มีผลบังคับใช้ภายในสิ้นปีนี้
การผ่านร่าง กฎหมายตัดลดภาษีถือเป็นการปูทางไปสู่ชัยชนะทางนิติบัญญัติครั้งแรกของนาย ทรัมป์ จากที่ผ่านมา ส.ว.ฝ่ายอนุรักษ์ในพรรครีพับลิกันมักไม่ค่อยเห็นด้วยกับนโยบายหลายข้อของนาย ทรัมป์ โดยหลังจากนี้ สภาสูงจะนำร่างกฎหมายดังกล่าวไปรวมกับร่างกฎหมายที่ผ่านสภาล่างไปแล้วเมื่อ เดือนก่อน แล้วจึงค่อยนำไปให้นายทรัมป์ลงนามบังคับใช้กฎหมาย
ด้าน พรรคเดโมแครตวิพากษ์วิจาร์ณว่า ร่างกฎหมายนี้เอื้อประโยชน์ให้กับคนรวยและธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น นอกจากนี้ยังอาจทำให้งบประมาณขาดดุลเพิ่มขึ้น 1 ล้านล้านดอลลาร์หรือประมาณ 32.6 ล้านล้านบาท แต่พวกเขาก็คัดค้านกฎหมายนี้ไม่สำเร็จ เนื่องจากพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรส