หลังความพยายามอย่างหนักจากสภาผู้แทนราษฎรที่มีพรรคเดโมแครตเป็นผู้ครองเสียงข้างมากในการผลักดันการผ่านร่างกฎหมายช่วยเหลือชาวอเมริกันจากผลกระทบทางเศรษฐกิจและโควิด-19 ด้วยเม็ดเงินงบประมาณ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 58 ล้านล้านบาท หรือที่รู้จักกันในชื่อ American Rescue Plan 1.9 Trillion
ล่าสุดร่างกฎหมายฉบับนี้ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากวุฒิสภาของสหรัฐฯ เรียบร้อยแล้วด้วยคะแนน 50-49 อย่างเป็นเอกฉันท์ของ ส.ว.เดโมแครต นับเป็นผลสำเร็จทางนิติบัญญัติครั้งใหญ่ของรัฐบาลโจ ไบเดน โดยหลังจากนี้จะส่งเรื่องไปยังประธานาธิบดี พร้อมรอลงนามซึ่งต้องเกิดขึ้นก่อนวันที่ 14 มี.ค.เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายก่อนที่แผนการช่วยเหลือประชาชนผู้ว่างงานแผนปัจจุบันจะหมดอายุลง
เม็ดเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 58 ล้านล้านบาท เป็นการใช้งบประมาณมหาศาล แต่อาจส่งผลดีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้มากถึง 8-9% และอาจทำให้ผู้คนกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานได้ภายในสิ้นปี 2565 แทนที่จะเป็นปลายปี 2567 หรือ 2568 และเมื่อคำนวณรวมการใช้จ่ายเพื่อฟื้นฟูประเทศจากวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ สหรัฐฯ จะทุ่มเงินไปทั้งสิ้น 5.2 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 158.87 ล้านล้านบาท ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลกเมื่อเทียบกับ GDP
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: 'ทำตามสัญญา' ชาวอเมริกันรับวัคซีน 50 ล้านโดสหลังไบเดนดำรงตำแหน่งเพียง 37 วัน
สมาชิกวุฒิสภาฝั่งพรรครีพับลิกันจำนวนไม่น้อยแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการใช้งบประมาณดังกล่าว โดยมีการโจมตีอย่างต่อเนื่องว่าเป็นการใช้งบประมาณที่มากจนเกินไปและจะก่อหนี้สาธารณะก้อนโต อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีชาวอเมริกันอย่างน้อย 8.5 ล้านคนที่ต้องตกงาน ขณะที่มีประชาชนจำนวนมากกำลังเผชิญกับความยากลำบากในการหาเลี้ยงชีพ ซึ่งทางพรรคเดโมแครตเห็นว่าการผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นจะต้องทำเพื่อช่วยให้ประชาชนและประเทศอยู่รอดจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
ซึ่งในการพิจารณาการใช้เม็ดเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์นี้ ส.ว.ฝั่งเดโมแครตยอมปรับลดเม็ดเงินช่วยเหลือประชาชนลงจาก 400 ดอลลาร์เป็น 300 ดอลลาร์ หรือราว 12,200 บาทเป็น 9,100 บาทต่อคนต่อสัปดาห์แทน เพื่อประณีประนอมรับฟังความเห็นต่างของ ส.ว.ภายในพรรคเดโมแครตเอง ซึ่งใช้เวลาแก้ไขรายละเอียดยาวนาน 12 ชม.ในวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา และยังสามารถต่อรองเพื่อขยายเวลาการจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนออกไปได้เพิ่มอีก 1 เดือนเต็มจนถึงสิ้นเดือน ก.ย. โดยประชาชนจะได้รับเงินจากรัฐบาลกลางรวมทั้งสิ้นราว 1,400 ดอลลาร์หรือกว่า 42,700 บาทต่อคน ซึ่งเป็นเงินที่ไม่เกี่ยวข้องกับเงินช่วยเหลือที่ชาวอเมริกันจะได้รับจากรัฐบาลของแต่ละมลรัฐที่ตนอาศัยอยู่
ไม่เพียงเท่านั้น รายละเอียดของร่างกฎหมายช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ฉุกเฉินนี้ยังครอบคลุมถึงการยืดระยะเวลาการลดหย่อนภาษี Child Tax Credit ออกไปอีก 1 ปี การเพิ่มวงเงินลงไปในกระบวนการแจกจ่ายวัคซีนโควิดและการตรวจหาการติดเชื้อ การช่วยเหลือกรณีครอบครัวที่มีปัญหาด้านการจ่ายเงินค่าที่อยู่อาศัย การเพิ่มงบประมาณด้านการศึกษาเพื่อการกลับมาเปิดการเรียนการสอนอย่างปลอดภัย การทุ่มงบ 14,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 427,714 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือการจ่ายเงินเดือนพนักงานของภาคธุรกิจสายการบินเพื่อจุดประสงค์ในการช่วยให้บริษัทไม่ต้องปลดหรือลดเงินเดือนพนักงานไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.