ไม่พบผลการค้นหา
หลังจากขยับโผใหญ่ทีมงานรัฐมนตรีต่างเข้าทำงานที่กระทรวงวันแรก มีงานอะไรที่ต้องเร่งสางกันบ้าง?

ฤกษ์งามยามดี 1 ธ.ค. 2560 เป็นวันที่คณะรัฐมนตรีประยุทธ์5 ที่มีการปรับครั้งใหญ่ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จะเริ่มงานในกระทรวงเป็นวันแรก หลายคนถูกสลับตำแหน่ง บางคนหน้าใหม่ที่ได้เข้ามาทำงาน และบางทีมยังอยู่กันครบ

การปรับใหญ่ครั้งนี้เป็นสัญญาจากกระแสความนิยมที่ตกต่ำลงอย่างมากหรือไม่ เมื่อมรสุมต่างขย่มความมั่นคงของรัฐบาลที่มาจากฝ่ายความมั่นคง และสัญญาณที่ต้องคืนสัญญากลับสู่ประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง "ครม.ประยุทธ์5"จะมีฝีมือแค่ไหนคงต้องพิสูจน์กัน

ปรับคนเก่งเข้ามา แต่ระบบต้องเอื้อให้ทำงานด้วย

ผู้สื่อข่าววอยซ์ทีวีพูดคุยกับ รศ.ยุทธพร อิสรชัย รองอธิการบดีและอดีตคณบดีรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ถึงรายชื่อครม.ชุดล่าสุด ยุทธพรเริ่มจากความสำคัญในการปรับครม.โดยกล่าวว่าโดยทั่วไปการปรับครม.มี 3 สาเหตุ ข้อแรกเป็นการทบทวนยุทธศาสตร์ที่ได้ปฏิบัติว่าทำได้เข้าเป้าหรือไม่ ข้อที่สองเป็นการปรับเพิ่มเพื่อความลงตัวต่อสถานการณ์ และข้อสุดท้ายเป็นการปรับเพื่อลดแรงกดดันที่กำลังเผชิญหน้า

ยุทธพร มองถึงทีมเศรษฐกิจของดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ว่าก่อนหน้านี้ทีมเศรษฐกิจถูกวิจารณ์ค่อนข้างมากแต่ทีมแทบไม่ได้ปรับเลย เป็นการโยกย้ายภายในโควตาของดร.สมคิด ซึ่งอาจจะถูกมองว่าถ้าปรับคนใดคนหนึ่งออกจะออกกันยกทีมส่งผลกระทบต่อการขับเคลื่อนงานต่อไป

ปัญหาปากท้องของเกษตรกรที่นำไปสู่การปรับครม.ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่นำอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยอย่าง นายกฤษฎา บุญราช และอดีตเอ็นจีโอชื่อดังอย่าง "อ.ยักษ์"ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร มาขับเคลื่อนนั้น ยุทธพรชี้ว่านอกจาแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรและสองคนนี้ถูกวางบทบาทมาให้ทำงานมวลชนด้วย แต่ก็ต้องพิสูจน์ว่าคนที่มาจากข้าราชการและภาคประชาชน จะสามารถทำความเข้าใจกับเกษตรกรจริงๆได้หรือไม่ เพราะหลายครั้งตัวแทนจากภาคประชาชนเข้ามาบริหารประเทศก็พบว่ามันไม่ง่ายเหมือนสมัยเป็นเอ็นจีโอ

ยุทธพร อิสรชัย.jpg


ด้านกระทรวงแรงงานที่เป็นชนวนในการปรับครม.กลับเอาพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ที่ไม่มีผลงานโดดเด่นเมื่อนั่งกระทรวงเกษตรฯไปคุม ยุทธพรเตือนว่าพล.อ.ฉัตรชัยถูกเพ่งเล็งมาตลอดว่าเป็นคนสนิทของพล.อ.ประยุทธ์ แต่กระทรวงแรงงานไม่ใช่งานง่ายเพราะมีทั้งการแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าว การแก้ปัญหาค้ามนุษย์รออยู่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอีกด้วย

ตัวแทนภาคเอกชนอย่างนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ที่เคยเป็นผู้บริหารระดับสูงของธนาคารกรุงเทพ ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยุทธพรชี้ว่าการทำงานในภาคเอกชนประสบความสำเร็จไม่ได้การันตีว่าจะทำงานบริหารประเทศสำเร็จเสมอไป เพราะกลไกมันซับซ้อน อีกทั้งการตัดสินใจเด็ดขาดยังอยู่ที่ตัวของนายกฯอีกด้วย

สุดท้ายที่นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ หวนคืนเก้าอี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯที่เคยฝากผลงานไว้ถูกจับตาว่าเป็นโควตาพรรคชาติไทยพัฒนาหรือไม่? ยุทธพรกล่าวว่าต้องยอมรับว่าคนมีความสามารถด้านนี้มีจำกัดและเมื่อถูกชักชวนจึงต้องมาร่วมทีม แต่ถ้ามองอีกแง่นี่อาจจะเป็นการพยายามสร้างเครือข่ายระหว่างคสช.และพรรคการเมืองเพื่อกลับไปสู่โหมดการเลือกตั้งก็เป็นได้