วันที่ 9 ธ.ค. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะอดีตนายกฯ อบจ.จังหวัดกาญจนบุรี และคณะรัฐมนตรีบางส่วน ลงพื้นที่ตรวจราชการ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อพบปะประชาชนติดตามความคืบหน้าการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย อำเภอท่ามะกา ตำบลตะคร้ำเอน อำเภอท่ามะกา
เมื่อนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงได้เดินพบปะประชาชนชาวอำเภอท่ามะกา และอำเภอพนมทวน ที่มารอให้การต้อนรับกว่าประมาณ 2,000 คน พร้อมมอบดอกไม้ ผูกผ้าขาวม้าพื้นถิ่น ถือป้ายให้กำลังใจ อาทิ "ขอต้อนรับท่านนายกฯ" "ขอสนับสนุนเงินดิจิทัล" "เรารักนายกฯเศรษฐา ชาวกาญจนบุรี อยากได้เงิน 10,000 ดิจิทัล" "ขอบคุณนายกฯ ช่วยแก้หนี้นอกระบบ" โดยในช่วงหนึ่ง มีประชาชนถามนายกรัฐมนตรีว่าจะได้เงินดิจิทัลเมื่อใด นายกรัฐมนตรี ตอบสั้นๆว่าอย่างเร็วสุดเดือนพฤษภาคม
โดยนายกรัฐมนตรี กล่างบนเวทีว่า ยินดีที่ได้กลับมาจังหวัดกาญจนบุรีอีกครั้งหลังจากการเลือกตั้งผ่านมา ตลอดระยะเวลาประมาณ 3 เดือน จะครบวันมะรืนนี้ที่รัฐบาลนี้ได้เข้ามาบริหารจัดการ เรื่องของปัญหาที่ค้างคากันมาในอดีต บ้านเมืองเรามีปัญหาจำนวนมาก แต่เรามีคณะรัฐมนตรีมีทีมงานที่พร้อมที่จะทำงานรับใช้ประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งเสียงสะท้อนตอนที่มาเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นพรรคใดที่มาที่นี่เสียงก็เป็นเสียงเดียวกันหมด คือเรื่องปากท้องและปัญหาหนี้สิน ปัญหายาเสพติดปัญหาพื้นที่ทำกิน ราคาที่ผลทางการเกษตรการค้าขายระหว่างพรมแดน รัฐบาลนี้ไม่ได้นิ่งนอนใจ
เมื่อวานนี้ได้มีการประกาศให้การแก้หนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ ต้องหมดไป จะเป็นการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ มีการเซ็ตเป้าหมายที่ชัดเจนระหว่างนายอำเภอกับผู้กำกับทุกจังหวัด และใครมีเสียงเรียกร้องใครมีปัญหากับการถูกเรียกหนี้ทวงหนี้อย่างไม่เป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นแก๊งมอเตอร์ไซค์หมวกกันน็อค ออนไลน์ หรือการข่มขู่ เจ้าหน้าที่ทุดคนพร้อมที่จะให้บริการกับประชา ขออย่ากลัว ให้เดินออกมาพูดคุยกัน รัฐบาลให้ความเป็นธรรมให้ความคุ้มครองกับเจ้าหนี้และลูกหนี้ ทุกอย่างต้องถูกต้องเป็นไปตามกฎหมาย
ขณะที่การแก้ไขปัญหายาเสพติด ได้มีการบริหารจัดการกันไปโดยได้มีการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง เข้ามาจัดการมีการประสานงานระหว่าง กอ.รมน. ฝ่ายความมั่นคงฝ่าย ตำรวจ สาธารณสุขและพื้นที่ ซึ่งเราให้ความสำคัญสูงสุด ซึ่งเรื่องยาบ้าไม่ต้องพูดถึง เป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่นี้ ในสมัยก่อนๆจะมีระยะเวลานานมากกว่าจะทำลาย แต่คราวนี้จะเร่งรัดวงจรเพื่อให้มีการทำลาย ก็จะทำลายทันทีเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยของสังคม
และศูนย์การค้าการลงทุน ยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนตนเชื่อว่าประชาชนทุกคนเป็นที่ประจำดีว่ารัฐบาลนี้ได้มีการทำงานอย่างเข้มแข็ง มีการเดินทางไปต่างประเทศเปิดการค้าระหว่างประเทศดึงนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุน เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทำให้ท่านอุตสาหกรรมของไทยแข็งแกร่งขึ้นอีก
เมื่อวานนี้ มีการประกาศเรื่องค่าแรงขั้นต่ำขึ้น ตนไม่ไว้ใจ ซึ่งหลายคนอาจเป็นห่วงอยู่ ซึ่งเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลค่าแรงขั้นต่ำที่ต้องยกระดับขึ้นมา เรายอมรับไม่ได้ที่มีการประกาศเมื่อวานนี้ แต่คงต้องไปพูดคุยกันในเวทีที่เหมาะสมและใช้เหตุให้ผล คิดถึงเรื่องที่เรายอมรับไม่ได้และต้องแก้ไขกันต่อไป
วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่หลังจากการเลือกตั้งแล้ว ยังไม่มีรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีมาเยี่ยมเยียนที่จังหวัดกาญจนบุรีซึ่งถือเป็นมิติใหม่หลังจากที่เราได้รับการไว้วางใจจากรัฐบาลได้เข้ามาบริหารด้วยเดินทางเข้ามารับฟังพูดคุยปัญหาที่ทุกคนมีอยู่ ก็ฝากการสื่อสารเข้ามาก็อยากให้รัฐบาลทำอะไรบ้างแต่ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลนี้พร้อมได้ทำงานอย่างเต็มที่
ขณะที่ในช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการพัฒนาและแก้ไขปัญหาภาพรวมจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการสินค้า OTOP และสินค้าวิสาหกิจชุมชน ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ตำบลท่ามะขาม ก่อนที่นายกรัฐมนตรีและคณะจะ เยี่ยมชมงาน “สัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว ประจำปี 2566” ณ บริเวณลานการแสดง แสง สี เสียง สะพานข้ามแม่น้ำแคว
อย่างไรก็ตามในช่วงค่ำ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เป็นประธานพิธีเปิดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023ณ หอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย (CIAM)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดกาญจนบุรีแบ่งเขตการเลือกตั้งจำนวน 5 เขต โดยเป็นพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย 4 เขต และพรรคภูมิใจไทย 1 เขตประกอบด้วย อัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สส.เขต 1 พรรคเพื่อไทย ชูศักดิ์ แม้นทิม สส.เขต 2 พรรคเพื่อไทย ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน สส.เขต 3 พรรคภูมิใจไทย ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สส.เขต 4 พรรคเพื่อไทยและ พนม โพธิ์แก้ว สส. เขต 5 พรรคเพื่อไทย