เหตุสังหารหมู่ดังกล่าว เกิดเมื่อคาโตะมีอายุ 25 ปี โดยเขาขับรถบรรทุกพุ่งชนคนที่เดินไปมาในย่านการค้าของอากิฮาบาระ ส่งผลให้มีเสียชีวิต 3 ราย ก่อนจะใช้มีดกระหน่ำแทงคนที่เดินผ่านไปผ่านมาอีก 4 ราย และบาดเจ็บอีก 8 ราย ทั้งนี้ คาโตะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในที่เกิดเหตุและรับสารภาพในชั้นศาล โดยเขาอ้างว่าทำไปเพราะโกรธจากการโดนรังแกทางไซเบอร์
คดีของคาโตะก่อให้เกิดการโต้เถียงอย่างมากในสังคมญี่ปุ่นเกี่ยวกับการฆาตกรรมแบบสุ่ม อิทธิพลของสื่อออนไลน์ และความล้มเหลวในการเยียวยาสุขภาพจิตของวัยรุ่น
วันอังคารนี้ (26 ก.ค.) สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า คาโตะ ซึ่งปัจจุบันอายุ 39 ปี ได้ถูกประหารชีวิตด้วยการแขวนคอแล้วที่ทัณฑสถานแห่งกรุงโตเกียว นับเป็นการประหารชีวิตนักโทษครั้งแรกในปีนี้ ตั้งแต่การประหารชีวิตนักโทษ 3 รายในช่วงเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว ทั้งนี้ ญี่ปุ่นยังมีนักโทษกว่า 100 คนที่ต้องโทษประหาร
อย่างไรก็ดี กฎหมายเกี่ยวกับการครอบครองมีดในญี่ปุ่นถูกปฏิรูปทันที หลังจากเกิดการฆาตกรรมหมู่ของคาโตะ
หลังการจับกุมตัว ศาลประจำกรุงโตเกียวตัดสินโทษประหารชีวิตแก่คาโตะในปี 2554 โดยศาลกล่าวว่าการกระทำอันเหี้ยมโหดของเขา “ไม่เหลือเศษเสี้ยวความเป็นมนุษย์อยู่เลย” ทั้งนี้ คาโตะยื่นอุทธรณ์เพื่อลดโทษประหารชีวิตในปี 2558 แต่ไม่เป็นผล
ประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่พัฒนาแล้วไม่กี่ประเทศ ที่ยังมีการประหารชีวิตอยู่ ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งในและนอกประเทศ อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นนับเป็นประเทศที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมในลักษณะดังกล่าวต่ำมาก
ที่มา: