สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลละฮ์แห่งปะหัง ทรงแต่งตั้งอันวาร์ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีใหม่ของประเทศแล้ว หลังผลการเลือกตั้งออกมาว่าพรรคการเมืองของอันวาร์ และ มูห์ยิดดิน ยัสซิน อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ไม่สามารถคว้าเสียงข้างมากเด็ดขาดในรัฐสภาได้ อย่างไรก็ดี ยังไม่มีความชัดเจนว่า พรรคการเมืองใดที่จะเข้าร่วมเป็นพรรคร่วมรัฐบาลของอันวาร์
“หลังจากพิจารณาความคิดเห็นของบรรดาผู้ปกครองมาเลย์แล้ว สมเด็จพระราชาธิบดีได้ทรงยินยอมให้แต่งตั้ง อันวาร์ อิบราฮิม เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 ของมาเลเซีย” ถ้อยแถลงของสำนักพระราชวังมาเลเซียระบุ เมื่อช่วงต้นวันพฤหัสบดี ก่อนที่อันวาร์จะเข้าพิธีสาบานตนในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้
พรรคปากาตัน ฮาราปัน (PH) ของอันวาร์ ซึ่งได้รับที่นั่งมากที่สุดในการเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กลับไม่มีที่นั่งเพียงพอสำหรับจัดตั้งรัฐบาล และต้องใช้เวลากว่า 5 วัน ในการเจรจาอย่างเข้มข้นเพื่อบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการตั้งรัฐบาลใหม่ โดยในช่วงเวลาดังกล่าวได้มีการหารือเกี่ยวกับการรวมกลุ่มของฝ่ายต่างๆ และรูปแบบพันธมิตรต่างๆ ก่อนที่การตกลงกันทั้งหมดจะถูกปฏิเสธ
ผู้นำทางการเมืองมาเลเซียหลายคน มีความแตกต่างส่วนบุคคลและทางอุดมการณ์ ซึ่งทำให้ยากต่อการรวบรวมเสียงข้างมาก ที่จะมากพอต่อการจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยในท้ายที่สุด สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลละฮ์ภายใต้หน้าที่ที่ถูกบัญญัติในรัฐธรรมนูญของมาเลเซีย ทรงเรียกผู้นำทั้งหมดไปเข้าเฝ้าที่พระราชวัง เพื่อพยายามหาจุดร่วมที่เพียงพอต่อการจัดตั้งรัฐบาลใหม่
ยังไม่ชัดเจนว่ารัฐบาลใหม่จะมีรูปแบบใด ไม่ว่าจะเป็นการรวมพรรคการเมืองอย่างเป็นทางการ รัฐบาลเสียงข้างน้อยกับพรรคการเมืองอื่นๆ ที่เสนอข้อตกลงด้านการไว้วางใจให้เป็นรัฐบาล หรือการตั้งรัฐบาลแห่งชาติผ่านการรวมทุกพรรคหลักทั้งหมดเข้าเป็นรัฐบาลเดียว
การตัดสินใจครั้งนี้นับเป็นการเดินทางทางการเมืองอันน่าทึ่งของอันวาร์ นักการเมืองผู้มีวาทศิลป์ และนักการเมืองดาวรุ่งพุ่งแรงเมื่อ 25 ปีที่แล้ว ที่ทุกคนคาดไว้จะเป็นทายาทการเมืองของ มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามคาด อันวาร์และมหาเธร์ล้มเหลวในการจัดการวิกฤตการเงินในเอเชีย ก่อนที่อันวาร์จะถูกสั่งจำคุกในข้อหาทุจริตและประพฤติผิดทางเพศกับผู้ชาย ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็นข้อกล่าวหาในทางการเมือง
คำตัดสินในคดีของอันวาร์ถูกยกเลิกในปี 2547 และเขากลับมาสู่การเมืองโดยการนำพรรคนักปฏิรูปของเขา จนเกือบจะเอาชนะพรรคอัมโนในการเลือกตั้งปี 2556 ได้ อย่างไรก็ดี อันวาร์ถูกฟ้องด้วยข้อหาทางการเมือง และถูกส่งตัวกลับเข้าคุกอีกครั้งในปี 2558 แต่เนื่องจากกระแสการต่อต้าน นาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซียในขณะนั้นมีทวีคูณขึ้นจากเรื่องอื้อฉาว 1MDB ครั้งใหญ่ มหาเธร์ซึ่งเคยประกาศวางมือทางการเมือง ตกลงกับอันวาร์ และร่วมกันช่วยสร้างแนวร่วมการเมืองใหม่ จนเกิดความพ่ายแพ้ต่อพรรคอัมโนในฐานะพรรครัฐบาลครั้งแรกในปี 2561 ส่งผลให้อันวาร์ได้รับการอภัยโทษจากกษัตริย์มาเลเซีย
แต่ข้อตกลงที่มหาเธร์ในวัย 97 ปี และอันวาร์ทำขึ้นว่า อดีตนายกรัฐมนตรีวัยเฉียดร้อยจะมอบตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้อันวาร์ต่อกลับล้มเหลวในปี 2563 หลังเกิดการแทงกันข้างหลังในทางการเมืองมาเลเซียขึ้น อย่างไรก็ดี ตอนนี้อันวาร์บรรลุเป้าหมายการเป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียแล้ว แต่เขากำลงเจอกับสภาพการเมืองประเทศที่ท้าทายอย่างมาก ด้วยภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากการระบาดโควิด-19 และศัตรูทางการเมืองของเขาที่กำลังจ้องเล่นงานนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของมาเลเซีย ทั้งนี้ มหาเธร์แพ้การเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นับเป็นความพ่ายแพ้ในเขตเกาะลังกาวีของตนครั้งแรกในรอบครึ่งศตวรรษ
การตั้งรัฐบาลที่นำโดยพรรคปากาตัน ฮาราปัน โดยนักปฏิรูปอย่างอันวาร์เป็นนายกรัฐมนตรี ก่อให้เกิดความโล่งใจจากชาวมาเลเซียที่ไม่มีเชื้อสายมาเลย์ หลังคู่แข่งอย่างเปอริกาตัน เนชันแนล (PN) ถูกครอบงำโดยพรรค PAS ของกลุ่มอิสลามหัวสุดโต่ง มีนโยบายที่ส่งผลให้คนที่ไม่ใช่ชาวมาเลย์เกรงว่า พรรคอิสลามหัวสุดโต่งจะผลักดันให้มีรัฐบาลที่เคร่งศาสนามากขึ้น และอดทนต่อความแตกต่างทางสังคมน้อยลง
ทั้งนี้ เป้าหมายของอันวาร์ในการส่งเสริมให้มาเลเซียมีความเป็นพหุนิยมมากขึ้น รวมถึงมาเลเซียที่ก้าวหน้าจะยังคงทำได้ยาก เนื่องจากความท้าทายอื่นๆ ทั้งหมดที่รัฐบาลใหม่จะต้องเผชิญในเวลาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ที่มา: