มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ข้าราชการมาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า

เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการบริหารจัดการของรัฐบาลภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยกรณีมีประเด็นทางสังคมเกี่ยวกับการกักตุนและจำหน่ายหน้กากอนามัย ซึ่งสมควรมีการตรวจสอบเพื่อให้เกิดความชัดเจน ถูกต้อง โปร่งใส และเป็นธรรม ตลอดจนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่การบริหารราชการของกรมการคภายใน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (3) และ (4) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534

นายกรัฐมนตรี จึงมีคำสั่งให้ นายวิชัย โภชนกิจ ตำแหน่ง อธิบดีกรมการค้าภายใน (นักบริหารระดับสูง) ข้าราชการพลเรือนสามัญ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยไม่ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิม จนกว่าจะมีการตรวจสอบแล้วหรือมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง โดยระหว่างการปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ข้าราชการดังกล่าวปฏิบัติราชการเกี่ยวกับการตรวจราชการ โดยในการปฏิบัติหน้ที่ให้อยู่ในความควบคุม กำกับดูแลของปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

อนึ่ง เพื่อให้การบริหารราชการของกรมการค้าภายในเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนต่อไป

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณีเกิดปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัยอย่างหนัก จนทำให้สมาคมโรงพยาบาลเอกชน ร้องเรียนถึงกระทรวงสาธารณสุข โดยให้สาเหตุว่าเป็นเพราะกรมการค้าภายในได้ประกาศให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม และโรงงานผู้ผลิตต้องจัดส่งให้กับกรมการค้าภายในเท่านั้น ไม่สามารถจำหน่ายให้โรงพยาบาลเอกชนได้ ทั้งนี้ได้ติดต่อขอซื้อจากกรมการค้าภายใน แต่ได้รับคำตอบว่าให้แจ้งเข้าไปเพื่อเข้าระบบการรอคิว

นอกจากนี้ กรมการค้าภายใน ได้ออกมาระบุว่าได้จัดสรรหน้ากากอนามัยให้แก่สมาคมร้านขายยา วันละ 25,000 ชิ้น ต่อมาในภายหลังทางสมาคมร้านขายยาออกมายืนยันว่าไม่เคยได้รับ อธิบดีกรมการค้าภายใน จึงแถลงกลับว่า เนื่องจากสมาคมร้านขายยา เป็นนิติบุคคล ไม่สามารถทำการค้าได้ โรงงานผลิตจึงส่งให้ร้านขายยาโดยตรงเพื่อลดขั้นตอนการจัดส่ง ให้หน้ากากอนามัยถึงมือผู้บริโภคโดยเร็ว

นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ กรมศุลกากร ได้เปิดเผยตัวเลขยอดส่งออกหน้ากากอนามัย ม.ค.-ก.พ. ที่ผ่านมา รวม 330 ตัน นำเข้า 216 ตัน โดยย้ำเป็นการส่งออกตามใบอนุญาตของกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ทำให้อธิบดีกรมการค้าภายในออกมาชี้แจงว่า เดือนก.พ.ได้อนุมัติส่งออกหน้ากากอนามัย 12.7 ล้านชิ้น แก่ผู้ยื่นคำขอ 7 ราย โดยให้เหตุผลว่า เป็นหน้ากากอนามัยที่ไม่ได้ใช้ในประเทศ พร้อมฟ้องโฆษกกรมศุลกากร ในข้อหาหมิ่นประมาท และเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จกับสื่อมวลชน

และล่าสุดในโซเชียลมีเดียมีการแชร์ภาพเอกสารอนุญาตส่งออกหน้ากากอนามัยใช้ในทางการแพทย์ จำนวนกว่า 1 ล้านชิ้นลงนามโดยนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน โดยเจ้าตัวชี้แจงวานนี้ว่า บริษัทดังกล่าว สามารถส่งออกตามเงื่อนไขในกฎหมายราคาสินค้าและบริการ เนื่องจากเป็นสินค้าสเปกพิเศษมีลิขสิทธิ์ ได้สิทธิบีโอไอ ห้ามจำหน่ายในประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• อธิบดีกรมการค้าภายในเผยเดือน ก.พ.อนุมัติส่งออกหน้ากากอนามัย 12.7 ล้านชิ้น
• คน.โต้สมาคมร้านขายยา "ไม่ได้รับหน้ากากฯ" เพราะโรงงานส่งร้านยาโดยตรง
• 'สมาคมร้านขายยา' ย้ำไม่เคยรับ 'หน้ากาก' จากกรมการค้าภายใน
• 'จุรินทร์' เผย อธิบดีกรมการค้าภายใน ฟ้อง โฆษกกรมศุลฯ เป็นเรื่องบุคคล