นายกรัฐมนตรี 'ชินโซ อาเบะ' ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันที่ 7 เม.ย. ครอบคลุม 7 จังหวัด รวมถึงกรุงโตเกียว ก่อนจะถูกขยายเป็นทั่วประเทศเมื่อวันที่ 16 เม.ย. โดยตามกำหนดแล้วประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะสิ้นสุดในวันพุธหน้า แต่ล่าสุดมีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีอาเบะได้เผยกับรัฐสภาว่า จะมีการหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดว่า ควรจะต้องมีการขยายสถานการณ์ฉุกเฉินหรือไม่ ซึ่งมีคนในรัฐบาลจำนวนหนึ่งเชื่อว่าจำเป็นจะต้องจำกัดจำนวนจังหวัดที่ประกาศนี้ครอบคลุม โดยพิจารณาตามสถานการณ์การระบาดในท้องถิ่น แต่มีอีกส่วนที่มองว่าการประกาศภาวะฉุกเฉินครอบคลุมทั้ง 47 จังหวัดเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ขณะเดียวกันมีการหารือว่าควรขยายไปจนถึงสิ้นเดือน พ.ค. หรือจนถึงวันที่ 6 มิ.ย. โดยแหล่งข่าวในรัฐบาลเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า นายกรัฐมนตรีอาเบะจะตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับการขยายภาวะฉุกเฉินหลังการประชุมกับผู้เชี่ยวชาญในวันศุกร์นี้
การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของญี่ปุ่นให้อำนาจผู้ว่าการท้องถิ่นเพิ่มขึ้นในการขอให้ประชาชนอยู่บ้านและขอให้ธุรกิจต่างๆ ปิดให้บริการ แต่ไม่ได้กำหนดบทลงโทษในกรณีส่วนใหญ่ที่ไม่ปฏิบัติตาม โดยเป็นการพึ่งพาแรงกดดันทางสังคมและความเคารพทางการแทนให้คนปฏิบัติตามแทนการลงโทษ และในขณะที่สถานการณ์ฉุกเฉินใกล้จะสิ้นสุด เมื่อหมดช่วงวันหยุดฤดูใบไม้ผลิ ‘Golden Week’ หรือ ‘สัปดาห์ทอง’ ยังคงมีสัญญาณน่ากังวลถึงอัตราการตรวจหาเชื้อที่ต่ำของญี่ปุ่น โดยล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในญี่ปุ่นอยู่ที่ 13,895 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 413 ราย ขณะที่อัตราส่วนการตรวจหาเชื้อในญี่ปุ่นอยู่ที่ 1.3 ต่อประชากร 1,000 ราย น้อยกว่าหลายเท่าตัวเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านอย่างเกาหลีใต้ซึ่งมีอัตราส่วนการตรวจหาเชื้ออยู่ที่ 12 ต่อประชากร 1,000 ราย
นอกจากนี้ ข้อมูลก็ชี้ว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทรุดหนักเป็นประวัติการณ์เช่นเดียวกับดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมและการค้าปลีกที่ร่วงลง เป็นตัวอย่างแสดงให้เห็นความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการระบาดของโควิด-19
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา 'ยูริโกะ โคอิเกะ' ผู้ว่าการกรุงโตเกียวได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่าสถานการณ์ในกรุงโตเกียวยังคงเป็นเรื่องยาก และเรียกร้องคณะรัฐมนตรีของอาเบะขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยในจำนวนผู้ป่วยยืนยันทั้งหมดเกือบ 14,000 ราย ของประเทศ มีกว่า 4,000 รายที่อยู่ในกรุงโตเกียว ขณะที่ความเห็นบนโซเชียลมีเดียต่อการขยายสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น มีตั้งแต่ยอมรับสภาพไปจนถึงผิดหวังที่ไม่สามารถพบญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงได้ แต่หลายคนก็กังวลมากกว่าในเรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะบรรดาธุรกิจขนาดเล็ก โดยบางคนเรียกร้องปล่อยให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ในบางพื้นที่ที่มีอัตราการติดเชื้อต่ำ
อ้างอิง Reuters / The Japan Times