ไม่พบผลการค้นหา
จดหมายเปิดผนึกจาก 'วทันยา วงษ์โอภาสี' พรรคพลังประชารัฐ ขอคนไทยอย่ายึดติดกับ 'ประชาธิปไตย' สิ่งที่ต้องคิดให้ลึกกว่า คือการเลือกผู้แทน “ที่ดี” รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี หรือ มาดามเดียร์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เขียนจดหมายเปิดผนึก จาก “เดียร์” ถึง “คนไทยทุกคน” เเสดงความคิดเห็นและให้ทัศนะเกี่ยวกับกระบวนการตัดสินใจในการเลือกตั้ง วันที่ 24 มี.ค. นี้ 

เนื้อหาทั้งหมดระบุว่า 

จดหมายจากใจ “เดียร์” ถึง “คนไทยทุกคน”

อีกเพียง 2 วันเท่านั้น วันเลือกตั้ง อาทิตย์ที่ 24 มีนาคมนี้ก็จะมาถึง สำหรับคนที่ยังไม่รู้จะเลือกใครดี หรือคนที่อาจจะมีในใจบ้างแล้วแต่ก็ยังชั่งใจอยู่ อยากขอให้ลองอ่านบทความนี้อีกสักครั้งก่อนคุณจะตัดสินใจ

ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าบทความที่เดียร์เขียนในวันนี้ป็นความคิดเห็นส่วนตัวในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานะทางการเมืองแต่อย่างใด

กว่า 5 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ประเทศเดินหน้าสู่การเลือกตั้งในวันอาทิตย์ 24 มีนาคมที่จะถึงนี้ วาทะกรรมที่ปลุกปั่นระหว่างคำว่า ”ประชาธิปไตย” กับ “เผด็จการ” กลายเป็นคำฮิตติดปากคนในโลกโซเชียลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แน่นอน! พอฟังครั้งแรกทุกคนคงปักใจเลือกที่จะอยู่ข้างประชาธิปไตยโดยไม่ต้องลังเล เพราะทั้งความหมายของคำว่า “ประชาธิปไตย” เมื่อบวกกับค่านิยมสมัยใหม่ ยังไงประชาธิปไตยก็ดูดีน่าดึงดูดมากกว่าเสมอ

แต่นอกจากคำว่าประชาธิปไตยที่เราพูดตามๆกัน คำถามที่ต้องถามต่อ อะไรคือประชาธิปไตยในอุดมคติของเราทุกคน? “ประชาธิปไตย = เลือกตั้ง” เพียงแค่นั้นหรือที่เราต้องการ? 

วันที่ 24 มีนาคมเราจะออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งตามที่เรียกร้องแล้ว เรามีคำตอบหรือยังว่าประเทศชาติจะต้องเดินยังไงต่อ? “อย่าปล่อยให้วาทะกรรมที่ปลุกปั่นในโซเชียล” จนทำให้วันนี้คนไทยรู้สึกฮึกเหิมเมามันแล้วจบลงตรงแค่ที่ได้เดินเข้าคูหา สุดท้ายก็แยกย้ายกันกลับบ้านไป อาจมีนักวิชาการ หรือผู้ใหญ่หลายท่านก่อนหน้านี้ออกมาย้ำเตือนเรื่องการเลือกคนดี ในวันที่ 24 นี้ไปบ้างแล้ว

แต่วันนี้อยากจะขอใช้พื้นที่ตรงนี้พูดถึงอีกครั้ง ว่าสิ่งที่เราต้องคิดให้ลึกกว่าคำว่าประชาธิปไตยคือการเลือกผู้แทน “ที่ดี” มีความรู้ความสามารถที่จะบริหารประเทศได้เข้าไปทำหน้าที่แทนเสียงของประชาชนคนไทยอีกกว่า 70 ล้านคนทั่วประเทศ เพราะประเทศไม่ใช่ของเล่นๆ ไม่ใช่เพียงแค่องค์กรที่มีพนักงานหลักพัน หลักหมื่นคน ที่ใครก็ได้จะลุกขึ้นมาอาสาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วก็จะบริหารให้บ้านเมืองสงบ ดูแลความเป็นอยู่ของคนในชาติได้ทุกครัวเรือนตั้งแต่เหนือจรดใต้ชายแดนไทย

สำหรับเดียร์ผู้นำที่ดีคือ คนที่ต้องรักชาติ ศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ คนรุ่นใหม่บางคนอาจจะกำลังคิดอยู่ในใจว่าคำพูดนี้ดูเฝือ หรือบางคนอาจมองว่าความคิดดูล้าหลัง แต่เดียร์หมายความตามนั้นจริงๆ เพราะ เรื่องการเมืองเป็นเรื่องของชุมชน นั่นหมายถึงว่าคุณต้องมีจิตสาธารณะ 

ถ้าตราบใดที่เราคิดถึงคนส่วนรวมมากกว่าเรื่องส่วนตนแล้ว ประเทศชาติก็จะไม่มีวันถึงทางตัน เพราะนั่นหมายถึงประเทศชาติต้องมาก่อนอคติส่วนตัวเสมอ ประเทศไทยเราเป็นสังคมเมืองพุทธ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันทรงมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ความคิดหรืออุดมการณ์จากฝั่งตะวันตกนั้นอาจฟังแล้วดูเท่ห์ ความคิดดูล้ำสมัย แต่ทุกทฤษฎีทางการเมืองย่อมต้องดูตามความเหมาะสมของประวัติศาสตร์และชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชาติด้วย การยุบ เลิก เปลี่ยน ฟังแล้วอาจดูมีความหวังได้อารมณ์สะใจ แต่ต้องอย่าลืมตั้งคำถามตัวโตๆว่าทำได้จริงหรือไม่ และเหมาะสมหรือเปล่า?

เดียร์ขอยกตัวอย่าง ครั้งสมัยในหลวงรัชกาลที่ 5 ที่ทรงเลิกทาส ท่านยังใช้เวลากว่า 31 ปี ฟังแบบนี้แล้วอาจไม่รวดเร็วโดนใจวัยรุ่น แต่นั่นก็เป็นวิธีการที่ “เปี่ยมไปด้วยพระปัญญา ที่สุขุมรอบคอบ” พัฒนาประเทศไทยได้โดยที่คนไทยไม่ต้องแตกแยกไม่ต้องทะเลาะกัน และที่สำคัญที่สุดคือประชาชนของพระองค์ไม่มีใครต้องเสียเลือดเนื้อเพียงสักหยด นี่ต่างหากคือคุณสมบัติของผู้นำที่ดีควรมีอย่างแท้จริง “ผู้ที่วิจารณ์ศาสนา หรือสถาบันพระมหากษัตริย์ นั้นก็ไม่ต่างจากลูกอกตัญญูต่อบุพการีตนเอง” ยิ่งไปกว่านั้น กลับทำให้เราต้องฉุกคิดว่า คนเหล่านั้นเหมาะสมที่จะบริหารประเทศแล้วหรือไม่? ยิ่งวิจารณ์มากเท่าไหร่ยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงการขาดความเข้าใจในประเทศ เพราะประเทศไทยไม่ได้มีแค่กรุงเทพ แต่ยังมีชาวบ้านในอีก 76 จังหวัดที่เหลือ และประเทศไม่ได้มีแค่คนวัยทำงานแต่ยังมีพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ที่มีความผูกพันกับศาสนาและมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจมาโดยตลอด หากไม่มีบรรพชนในวันนั้น ก็คงไม่มีเราในวันนี้

วันที่ 24 มีนาคมนี้ อย่าปล่อยให้เสียงของเรานั้นสูญเปล่า ยิ่งหากคุณคือคนที่เรียกร้องคำว่า”ประชาธิปไตย”และต้องการกำจัดระบบเผด็จการให้สิ้นซากหมดไป ยิ่งต้องอย่าลืมกลับไปแก้ที่รากเหง้าของปัญหานั่นคือการกำจัดนักการเมืองที่คดโกงประเทศชาติ

ลองนั่งสูดลมหายใจลึกๆ แล้วตั้งสติดีๆ อย่าปล่อยให้วาทะกรรมในโลกโซเชียลนำพาให้เราหลงทาง อนาคตของประเทศคือสิ่งที่คนไทยทุกคนต้องช่วยกันค่ะ

-----------------------------------

ปล. ประชาธิปไตยตัวจริง ต้องเคารพในความเห็นต่างนะคะ “เดียร์ยินดีรับฟังความคิดเห็นที่สุภาพและมีเหตุผลค่ะ”

หลังโพสต์ดังกล่าวเผยเเพร่ออกไป มีผู้ให้ความสนใจเเละเข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนเเสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยต่อไปนี้คือตัวอย่างความคิดเห็นที่มีคนแสดงความเห็นด้วยจำนวนมาก

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Passakorn Thamthitiwong ระบุว่า "ผู้นำที่ดีของคุณเดียร์คือคนที่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แต่ผู้นำที่ดีของผมคือคนที่รักประชาชนครับ"

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Khunchaya Cartoon กล่าวว่า ขอแนะนำคุณเดียร์สักอย่างนะครับ คุณรุ้จักชนบทไหมครับ คุณเคยต้องไปตักน้ำในบ่อมาใช้มากิน คุณเคยเดินไปโรงเรียนไกลเป็น 10 กิโล ถ้าไม่เคยอย่ามาตัดสินคนชนบทว่าเราไม่รู้อะไร ผมอายุ 38 ปี มีลูกและสิ่งที่หวังคือลูกผมจะไม่ต้องมาเจออะไรแบบผม การเมืองมันอยู่แค่ใน กทม. มาช้านาน ใครก็ตามที่จะเอาอำนาจการตัดสินชีวิตคนชนบทอย่างเรามาคืนเราต่างหากที่เราต้องการ คนที่ยื่นบัตรคนจนมีตีตราเรา คนแบบนี้หรือที่ผมจะส่งต่อให้ลูกผม พวกเราไม่ใช่ขอทาน เอาอำนาจมาคืนเราให้เราเลือกชีวิตในสิ่งที่พวกเราอยู่ ไม่ใช่มาคิดแทนเรา โยนอะไรที่เราไม่ได้ขอแต่คิดว่าเราด้อยกว่า เราต้องการอำนาจของเราที่มีเท่าคุณแค่นั้น อย่าโยนอะไรมาให้เราแล้วตราหน้าว่าเราไม่รุ้อะไร

ด้าน Saam Ornuma Permpanich ระบุว่า เห็นด้วยกับการเลือก "ผู้แทนที่ดี" 5 ปีที่ผ่านมา เราได้รับการพิสูจน์แล้ว ว่า "รบ.ปัจจุบันไม่ใช่และไม่สามารถป็นผู้แทนที่ดีของคนไทยได้" #รักชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ #รักประเทศไทย #รักประชาธิปไตย