ในการให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ข่าว Politico ของสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (7 มิ.ย.) เซเลนสกียังกล่าวหาว่ากองกำลังรัสเซียได้ยิงใส่หน่วยกู้ภัยของยูเครน ขณะที่พวกเขาพยายามเข้าถึงผู้คนที่ติดอยู่ในพื้นที่ประสบภัย ทั้งนี้ ยูเครนกล่าวหาว่ารัสเซียเป็นผู้ก่อเหตุยิงถล่มเขื่อนแตกในครั้งนี้ ในขณะที่รัสเซียปฏิเสธความรับผิดชอบ
“จากหลังคาบ้านน้ำท่วม เห็นคนจมน้ำลอยขึ้นมา คุณสามารถเห็นได้จากอีกด้านหนึ่ง มันเป็นเรื่องยากมากที่จะนำผู้คนออกจากพื้นที่ที่ถูกยึดครองของเคอร์ซอน เมื่อกองกำลังของเราพยายามนำพวกเขาออกไป พวกเขาถูกยิงโดยผู้ยึดครองจากระยะไกล” เซเลนสกีกล่าว
สำนักข่าว The Kyiv Independent รายงานอ้างคำพูดของ เยฟเฮน ริชชุก นายกเทศมนตรีพลัดถิ่นของเมืองโอเลชกี ที่ถูกยึดครองโดยรัสเซีย รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คนจากเหตุภัยพิบัติเขื่อนแตกในครั้งนี้ ในขณะที่จากรายงานของ RIA Novosti สำนักข่าวของรัฐรัสเซีย รายงานอ้างคำพูดของนายกเทศมนตรีเมืองโนวา คาคอฟกา ที่ได้รับการแต่งตั้งจากทางการรัสเซีย ที่กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (8 มิ.ย.) ว่า พวกเขาพบผู้เสียชีวิตจำนวน 5 ราย
อย่างไรก็ดี เซเลนสกีเตือนว่า พวกเขายังไม่สามารถทราบจำนวนผู้เสียชีวิตได้ “เราจะไม่สามารถเห็นผลลัพธ์ทั้งหมดในอีก 2-3 วัน เมื่อน้ำลดลงเล็กน้อย” เซเลนสกีระบุกับ Politico
ปัจจุบันนี้ ดินแดนที่ควบคุมโดยยูเครนและรัสเซียในแต่ละด้านของแม่น้ำดนิโปร ได้รับผลกระทบจากเหตุเขื่อนแตกนี้ โดย โอเลกซานดร์ โปรคูดิน ผู้ว่าการภูมิภาคของยูเครนประเมินว่า พื้นที่ประมาณ 600 ตารางกิโลเมตร ของภูมิภาคเคอร์ซอนจมอยู่ใต้น้ำในวันพฤหัสบดี และพื้นที่ 68% ของพื้นที่น้ำท่วมอยู่ในฝั่งที่ควบคุมโดยรัสเซีย
หน่วยบริการฉุกเฉินแห่งรัฐยูเครนกล่าวว่า ประชาชนประมาณ 2,000 คน ได้รับการอพยพออกจากพื้นที่น้ำท่วม รวมทั้งเด็ก 103 คน โดยในขณะที่ดินแดนฝั่งภายใต้ควบคุมของรัสเซียนั้น วลาดิเมียร์ ซัลโด ผู้ว่าการภูมิภาคที่รัสเซียให้การหนุนหลัง กล่าวว่า มีประชาชนมากถึง 40,000 คนยังคงติดอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม โดย ทัตยานา คุซมิช รองผู้อำนวยการของซัลโดกล่าวว่า รัสเซียได้อพยพประชาชนแล้ว 1,274 คน และการตอบสนองด้านฉุกเฉินจะใช้เวลาอย่างน้อย 10 วัน
ในขณะเดียวกัน องค์การสหประชาชาติได้เตือนถึงหายนะทางสิ่งแวดล้อม ที่อาจส่งผลร้ายแรงด้านมนุษยธรรมต่อผู้คนหลายแสนคน ทั้งนี้ หน่วยงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติ OCHA ระบุว่า ความพยายามฉุกเฉินกำลังดำเนินการอยู่ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนมากกว่า 16,000 คน รวมถึงการจัดหาน้ำดื่มด้วย
สหประชาชาติยังกล่าวว่าทีมงานของหน่วยงานอยู่ในเคอร์ซอน เพื่อประสานงานด้านความพยายามในการบรรเทาทุกข์ และการเข้าถึงน้ำดื่มเป็นปัญหาหลัก โดยหน่วยงานระบุเสริมว่าจนถึงขณะนี้ หน่วยงานได้มีการแจกจ่ายน้ำไปแล้วกว่า 12,000 ขวดและยาเม็ดทำความสะอาดน้ำอีกจำนวน 10,000 เม็ด
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลด้านสวัสดิภาพสัตว์ที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเมื่อวันอังคาร มีการยืนยันว่าสัตว์กว่า 300 ตัวในสวนสัตว์คาซโควา ดิโบรวา ตายลงจำนวนมากหลังเกิดเหตุน้ำท่วมจากเขื่อนแตก ทั้งนี้ ปฏิบัติการกู้ภัยกลับถูกขัดขวางโดยทุ่นระเบิด ซึ่งล้อมรอบสวนสัตว์เอาไว้
ที่มา: