วันที่ 14 ก.ย. 2566 แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้ครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะรองประธานกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กถึงคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 230/2566 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ว่า ตั้งแต่ปักหมุดนโยบายซอฟต์พาวเวอร์แล้ว ที่เพื่อไทยถูกตั้งคำถามว่า ทำไมเราถึงใช้คำว่า ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ เราเข้าใจคำนี้จริงหรือไม่ ขั้นแรกอยากอธิบายว่า ซอฟต์พาวเวอร์ ไม่เท่ากับ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ แต่ซอฟต์พาวเวอร์ ครอบคลุมทั้งการพัฒนาคนที่มีทักษะสูง เศรษฐกิจสร้างสรรค์ การเมืองประชาธิปไตย และ การต่างประเทศที่เรียกว่า ‘การทูตเชิงวัฒนธรรม’ (Cultural Diplomacy) ซอฟต์พาวเวอร์จึงไม่ใช่แค่มิติเศรษฐกิจสร้างสรรค์หรือมิติทางการเมืองระหว่างประเทศ แต่จะต้องทำงานอีกหลายด้านเพื่อให้เกิดการพัฒนา จนสามารถส่งออกวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ หรือคุณค่าไปสู่นานาประเทศ และกลายเป็นผู้นำในระดับโลกต่อไป
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราจะต้องอาศัยความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อออกแบบนโยบายการส่งออกวัฒนธรรม ทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สนับสนุนในด้านงานวิจัยที่เป็นประโยชน์ พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ แรงงาน กระทรวงพาณิชย์มาช่วยสนับสนุนเรื่องการค้าการตลาด และอีกหลายกระทรวงที่ต้องเข้ามาร่วมกัน
นอกจากนี้ยังมีตัวแทนจากอุตสาหกรรมหลายท่านมาช่วยกันชี้เป้าอุปสรรค ปัญหา เพื่อนำไปสู่การปลดล็อก และช่วยกันออกแบบนโยบายสนับสนุนให้อุตสาหกรรมเติบโต เพื่อขยายตลาดค้าขายสินค้าทางวัฒนธรรมไปสู่ตลาดโลก
โดยหัวใจของการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ ในครั้งนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ อุตสาหกรรม และ ศักยภาพของคน
สำหรับการพัฒนาศักยภาพของคนเราจะอยู่ในนโยบาย OFOS (One Family One Soft power) : นโยบายพัฒนาศักยภาพคน พัฒนาคนให้มีสกิลสร้างสรรค์ ขยับทักษะแรงงานไทยให้มีทักษะแรงงานขั้นสูง
ส่วนอุตสาหกรรม เราจะตั้ง THACCA : องค์กรพัฒนาอุตสาหกรรม โมเดลเดียวกับ KOCCA ในเกาหลีใต้ หรือ TAICCA ไต้หวัน
"ซึ่งตลอดการทำงานช่วงก่อนเลือกตั้ง อิ๊งค์และทีมนโยบาย ได้ไปพบปะ ขอความเห็น และระดมความคิดกันว่าพัฒนาอุตสาหกรรมให้ดีกว่านี้ได้อย่างไร และพบว่ายังมีโอกาสอีกมากในอุตสาหกรรมสร้างซอฟต์พาวเวอร์บ้านเราค่ะ "
"เพื่อไทยจะเดินหน้า ร่วมทำงานกับภาคเอกชน ขอถือโอกาสนี้ ขอขอบคุณคณะทำงานจากภาคเอกชน ที่จะมาร่วมกันทำงานหลังจากนี้นะคะ ขอฝากตัวกับทุกท่านด้วย เรามาร่วมกันทำงานอย่างหนักพาประเทศพ้นจากประเทศรายได้ปานกลางสู่ประเทศรายได้สูงค่ะ"