ไม่พบผลการค้นหา
ในบรรดา 'เอกสารชั้นความลับ' มี 'เอกสารลับสุดยอด' ของรัฐบาลรวมอยู่ด้วย ตามกฎหมายต้องถูกเก็บอย่างรัดกุมเพราะสำคัญต่อความมั่นคงของชาติ

ผู้พิพากษาศาลมลรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ อนุญาตให้มีการเปิดเผยหมายค้นและรายการสินทรัพย์ที่ตรวจพบในรีสอร์ตมาร์ อา ลาโก หรือบ้านพักของโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ปาล์มบีช ฟลอริดา หลัง FBI นำหมายบุกเข้าตรวจค้นที่พักของทรัมป์ในวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยแหล่งข่าวเปิดเผยกับ CNN ว่าเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้นอย่างเจาะจงในพื้นที่ของคลับ ส่วนที่เป็นออฟฟิศและพื้นที่ส่วนตัวของทรัมป์

สำนักข่าว NPR รายงานว่า 'หมายค้นและรายการสินทรัพย์' ที่ถูกเปิดเผยต่อสารณชนเผยให้เห็นรายการสินทรัพย์ทั้งหมดที่ FBI ได้ทำการยึดไป ประกอบไปด้วยสินทรัพย์และกล่องเอกสารรวมทั้งสิ้นมากกว่า 30 รายการ 

พบกว่าเป็นเอกสารที่เป็นการตีพิมพ์และเขียนด้วยลายมือ ภาพถ่าย รวมถึง 'เอกสารชั้นความลับ' หรือ 'Classified Documents' ทั้งหมด 11 ชุด โดยมีการตรวจพบเอกสารประเภท 'ลับสุดยอด' หรือ 'Top Secret' รวมอยู่ด้วย

ตามกฎหมายแล้ว 'เอกสารชั้นความลับ' จะต้องถูกส่งไปที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติทันทีหลังการลงจากตำแหน่งของผู้นำ หรือเก็บในพื้นที่เฉพาะเท่านั้น เพราะเป็นเอกสารที่มีข้อมูลละเอียดอ่อนต่อความมั่นคงของประเทศ ไม่สามารถนำออกมาไว้ที่ 'บ้านพัก' อดีตประธานาธิบดีเช่นนี้ได้ 

การละเมิดกฎหมายดังกล่าวจะถือเป็นความผิด ซึ่งหลังจากนี้ FBI จะเดินหน้าสอบสวนต่อไปว่าอดีตผู้นำมีความผิดฐาน 'จารกรรม' หรือไม่

เอกการยังชี้ด้วยว่า ผู้พิพากษา บรูซ เรนฮาร์ท คือผู้ลงนามอนุมัติหมายคนในวันที่ 5 ส.ค.2565 เวลา 12.12 น. เพียง 3 วันล่วงหน้าก่อนการตรวจค้นเกิดขึ้น โดยระบุไว้ว่าการค้นที่พักของทรัมป์ต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 19 ส.ค. ระหว่างเวลา 06.00-22.00 น. โดยเจ้าหน้าที่ FBI มีสิทธิ์ตรวจค้นพื้นที่ที่เรียกว่า "45 Office" ห้องเก็บของทั้งหมด ห้องและพื้นที่ทั้งหมดที่ถูกใช้งานหรือมีเพื่อการใช้งานของอดีต ปธน.สหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ของเขา

เมอร์ริก การ์แลนด์ อัยการสูงสุดเผยในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ว่าเขาได้ยื่นญัตติร้องขอให้มีการเปิดเผยเอกสารชุดนี้ต่อสาธารณะ ซึ่งทรัมป์มีสิทธิ์ที่จะยับยั้งการเปิดเผยดังกล่าว ตรงกันข้าม ทรัมป์กล่าวสนับสนุนว่า "ควรรีบเปิดเผยเอกสารที่ตรวจพบโดยทันที"

ขณะนี้อดีตผู้นำสหรัฐฯ ยังไม่ออกมาเคลื่อนไหวต่อประเด็นดังกล่าวผ่านแถลงการณ์ แต่มีการโพสต์ข้อความอย่างต่อเนื่องบนแพลตฟอร์ม Truth Social ของเขาโดยอ้างว่า "เอกสารที่ตรวจพบถูกเปลี่ยนเป็นเอกสารที่ไม่ใช่ชั้นความลับหมดแล้ว" พร้อมชี้ด้วยว่า ทางการสหรัฐฯ สามารถเข้าถึงเอกสารเหล่านี้เมื่อใดก็ได้ "เพียงแค่ขอมาก็พอ"