วันที่ 15 มีนาคม 2566 เวลา 09.00 น. ที่เรือนจำจังหวัดพิจิตร สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางตรวจเยี่ยมเรือนจำ และมอบนโยบาย โดยมี นายดิเรก สุขเกษม ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพิจิตร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ
โดย สมศักดิ์ กล่าวว่า การดำเนินการภายในเรือนจำเราต้องดำเนินงานตามมาตรฐาน SOP และหลักสิทธิมนุษยชน รวมถึงต้องมีการสอนภาษาอังกฤษและอาชีพต่างๆ เพื่อให้ผู้พ้นโทษออกไปมีงานทำ ไม่กลับมาทำผิดซ้ำ โดยขณะนี้ เราได้มีการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์นำร่องไปแล้วที่ จ.สมุทรสาคร และเราจะตั้งให้ได้ 5 แห่ง 5 ภาคทั่วประเทศ เพราะตนอยากให้ผู้ต้องขังตั้งใจฝึกอาชีพและประพฤติตนให้ดี เพื่อเป็นคนดีคืนสู่สังคมโดยขณะนี้ รัฐบาลกำลังจะหมดวาระ ซึ่งตนก็คงจะไปอยู่พรรคใหม่ แต่นโยบายต่างๆที่ตนให้ไว้ ก็คงจะดำเนินต่อไป แต่ตนจะไปพรรคไหนนั้น ในวันที่ 17 มี.ค.นี้ เวลา 14.00 น. ตนจะจัดแถลงข่าวให้ทราบอีกครั้ง เพราะวันนี้ ดิน ฟ้า อากาศเปลี่ยน เราก็ต้องดำเนินการให้เข้ากับสภาพอากาศ โดยก็ขอให้ทุกท่านรอติดตาม
จากนั้น สมศักดิ์ ได้ชมการแสดงจากผู้ต้องขัง และชมตัวอย่างผลิตภัณฑ์จากการฝึกอาชีพ อาทิ ขนมเบเกอรี่ ไม้กวาด การปลูกไม้ดัดสวยงาม
ต่อมาเวลา 10.00 น. สมศักดิ์ ได้เดินทางไปยัง ห้างแฮปปี้พลาซ่า อ.เมือง จ.พิจิตร เพื่อเป็นประธานโครงการสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ภาคเหนือตอนล่าง โดยมี พยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ว่าที่ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม มานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ เครือข่ายเยาวชน คณะกรรมการชุมชน สมาชิกเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน และประชาชนรวม 700 คน ร่วมงาน
สมศักดิ์ กล่าวว่า ยาเสพติดเป็นอันตรายต่อชีวิต อย่างล่าสุดมีกรณี คนเมายาบ้า กัญชา ก่อเหตุกราดยิงผู้อื่นเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 2 ราย และมีรถยนต์เสียหายอีก ที่ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเรื่องนี้เป็นพิษภัยจากยาเสพติด ตนจึงเร่งลงพื้นที่ให้ความรู้กับหน่วยงานต่างๆ เกี่ยวกับประมวลกฎหมายและมาตรการต่างๆ เพื่อให้การป้องกันและปราบปรามมีประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนผู้เสียหายนั้น ตนได้สั่งการให้สำนักงานยุติธรรมจังหวัด ลงพื้นที่แจ้งสิทธิการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหาย ตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนแก่ผู้เสียหาย ค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา โดยผู้เสียชีวิต จะได้รับเงินเยียวยารวม 110,000 บาท คือ ค่าเสียชีวิต 50,000 บาท ค่าทำศพ 20,000 บาท ค่าขาดผู้อุปการะเลี้ยงดู 40,000 บาท ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจะได้ค่ารักษาพยาบาล 40,000 บาท ค่าฟื้นฟูร่างกาย 20,000 บาท ค่าหยุดประกอบอาชีพตามจำนวนวัน และค่าเสียหายอื่นๆอีก ไม่เกิน 50,000 บาท โดยขณะนี้ตนได้เสนอแก้หลักเกณฑ์เพิ่มเงินเยียวยา กรณีเสียชีวิตปกติ ของเดิม 110,000 บาท ของใหม่ 225,000 บาท กรณีเสียชีวิตพิเศษ(แบบทรมาน) ของเดิม 200,000 บาท ของใหม่ 575,000 บาท
"จะเห็นได้ว่า ยาเสพติด เป็นภัยต่อสังคม ผมจึงเร่งดำเนินการปราบปราม ด้วยการยึดอายัดทรัพย์ของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด เพื่อตัดวงจรการค้ายา ซึ่งก่อนผมเป็นรมว.ยุติธรรม ยึดอายัดทรัพย์ได้ไม่เกินปีละ 900 ล้านบาท แต่ตั้งแต่ผมเป็นรัฐมนตรี สามารถยึดอายัดทรัพย์รวม 4 ปี ได้ถึง 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งผมเชื่อมั่นว่า จะช่วยให้ยาเสพติดลดน้อยลงได้" รมว.ยุติธรรม กล่าว
จากนั้น สมศักดิ์ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกระแสข่าวการย้ายเข้าพรรคเพื่อไทยว่า ปลายสัปดาห์นี้ จะมีความชัดเจน เพราะถ้าจะขยับตัว ก็คงต้องทำความชัดเจนให้ทราบ
โดยในช่วงบ่าย สมศักดิ์ ได้เดินทางด้วยรถยนต์กว่า 100 กิโลเมตร ไปยัง มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เพื่อเป็นประธานโครงการสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ภาคเหนือตอนล่าง โดยมีนางพรเพชร เขมวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ว่าที่ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ เครือข่ายเยาวชน คณะกรรมการชุมชน สมาชิกเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน และประชาชนร่วมงาน