วันที่ 19 เมษายน 2566 สมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย สุธรรม แสงประทุม แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีหลายสมัย วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำพรรคเพื่อไทย

วิวรรธนไชย ณ กาฬสินธุ์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย และอดีตส.ส.หลายสมัย วิภูแถลง พัฒนภูมิไท อดีต ส.ส. ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย และอดีตเลขานุการ รมว.ยุติธรรม

ได้ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช 4 จุด คือ สนามซ้อมโคโกนายท์ ตำบลท่าเรือ , ตำบลปากนคร อำเภอเมือง , สวนทุเรียน อำเภอท่าศาลา และ สนามหน้าเทศบาลสิชล อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อปราศรัยช่วย บุญฑริกา ยอดสุรางค์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 2 และ ปรมาภรณ์ บริบูรณ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 10 เบอร์ 10 โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนเข้าร่วม 4 เวทีกว่า 10,000 คน 

โดยจุดแรก สมศักดิ์ พร้อมผู้สมัคร น.ส.บุญฑริกา ได้เดินทางไปเยี่ยมชมสนามซ้อมโคโกนายท์ เพื่อเยี่ยมชมการฝึกซ้อมวัว และนำเสนอแนวนโยบายผลักดันวัวชน ให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ รวมถึงรับฟังข้อเสนอแนะ ซึ่งนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ซอฟต์พาวเวอร์วัว จะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสัตว์ รวมถึงหากมีการถ่ายทอดสดทั่วโลก ราคาวัวจะสูงขึ้นอีกหลายเท่าตัว

จากที่ขณะนี้ วัวแพงสุดอยู่ที่ราคา 2 ล้านบาท โดยปัจจุบัน กระทรวงมหาดไทย ก็อนุญาตให้ชนวัวได้อยู่แล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นสิ่งที่จะช่วยยกระดับให้มีมาตฐานสากลมากขึ้น โดยสิ่งแรกที่ตนก้าวเข้ามาช่วยเปลี่ยนแปลงคือ การพันผ้าสีแดง-น้ำเงิน ที่เขาวัว เพื่อป้องกันคนดูสับสน ซึ่งตนเชื่อว่า อีก 5 ปี นักท่องเที่ยวต่างชาติ จะเข้ามาชมจำนวนมาก  

ขณะที่ บุญฑริกา กล่าวว่า กีฬาวัวชน เป็นกีฬาพื้นบ้าน ที่สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้ โดยนายสมศักดิ์ และพรรคเพื่อไทย เห็นโอกาสนี้ จึงได้ผลักดันวัวชน เป็นซอฟต์พาวเวอร์ รวมถึงได้เป็นผู้คิดค้น การพันเขาวัวสีแดง-น้ำเงิน เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติดูง่าย ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสให้นักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งเข้ามาท่องเที่ยว และชมกีฬาวัวชน โดยจะเห็นได้ว่า วันนี้ เรามีผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค เข้าใจเรื่องวัวอย่างแท้จริง ดังนั้น มั่นใจได้เลยว่า เรื่องวัวจะได้รับการพัฒนาอย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะวัวชนกำลังลงซ้อม สมศักดิ์ ได้นั่งเชียร์วัวเขาสีแดง ที่กำลังซ้อมกับวัวเขาสีน้ำเงิน โดยสมศักดิ์ ได้บอกถึงเหตุผลการเลือกวัวสีแดงอย่างอารมณ์ดีว่า พรรคเพื่อไทย เป็นสีแดง ตนจึงเลือกวัวสีแดง ซึ่งปรากฎว่า การซ้อมวัวสีแดง ที่นายสมศักดิ์ เลือกไว้ ได้ชนะการซ้อม นายสมศักดิ์ จึงพูดแซวว่า ขนาดวัวสีแดงยังชนะ พรรคเพื่อไทย ก็ต้องชนะอย่างแน่นอน

จากนั้น สมศักดิ์ พร้อมด้วยนายสุธรรม และนายวรวัจน์ ได้ขึ้นเวทีปราศรัย พบปะกับพี่น้องประชาชน ทั้ง 3 เวที โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ ตนเดินทางมาภาคใต้ ก็มาช่วยผลักดันวัวชน ให้ไปสู่สากล เพื่อทำให้พี่น้องประชาชน มีรายได้เพิ่มมากขึ้น เพราะสามารถพัฒนาวัวชน ให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ ตามแนวทางของพรรคเพื่อไทยได้ 

รวมถึงตนยังได้ผลักดันการปลดล็อกพืชกระท่อม เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพให้กับพี่น้องประชาชน เพราะพืชกระท่อม สามารถทำเป็นผลิตภัณฑ์ส่งขายต่างประเทศได้ โดยจะเห็นได้ว่า ตนเข้าใจพี่น้องชาวภาคใต้ จึงได้ช่วยขับเคลื่อนสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้แล้วจำนวนมาก ดังนั้น ตนขอโอกาสพี่น้องชาวใต้ ช่วยเปิดใจเลือกพรรคเพื่อไทย เพื่อให้เกิดแลนด์สไลด์ทั้งประเทศด้วย

ขณะที่ สุธรรม กล่าวว่า วันนี้ พี่น้องประชาชน ต้องช่วยกันเอาประยุทธ์ออกไป และเอาพรรคเพื่อไทย เข้ามา ด้วยการเข้าคูหาเลือกพรรคเพื่อไทย ทั้งคน และพรรค เบอร์ 29 ให้เกิดแลนด์สไลด์ เพื่อออกจากความยากจน เพราะพรรคเพื่อไทย มีนโยบายยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งการลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ รวมถึงมีนโยบายเติมเงินกระเป๋าดิจิทัล 1 หมื่นบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ในชุมชน โดยนโยบายนี้ พี่น้องประชาชน ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะทำได้สำเร็จเหมือนในอดีตอย่างแน่นอน 

วรวัจน์ กล่าวว่า วันนี้ พรรคเพื่อไทย จะเข้ามาแก้ไขปัญหาความยากจนให้หมดไป เพราะตลอด 8 ปีที่ผ่านมา พี่น้องประชาชน ต้องประสบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ดังนั้น พรรคเพื่อไทย จะเติมเงินกระเป๋าดิจิทัล 1 หมื่นบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งสามารถทำได้อย่างแน่นอน เพราะในอดีตก็ถูกกล่าวหาว่า โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ไม่สามารถทำได้

แต่ปรากฎว่า สามารถใช้มาได้กว่า 20 ปีแล้ว นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทย ยังมีนโยบายช่วยเติมเงินให้ครอบครัวที่มีรายได้ไม่ถึง 2 หมื่นบาทบาท ส่วนเรื่องยางพารา พรรคที่ทำให้ราคาเกิน 100 บาทได้ ก็คือ พรรคเพื่อไทย เพราะสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย เคยทำราคายางขึ้นถึงกิโลกรัมละ 170 บาท ดังนั้น พรรคเพื่อไทย จะเข้ามาสานต่อความสำเร็จในอดีตอย่างแน่นอน 

ก่อแก้ว กล่าวว่า ถ้าพรรคเพื่อไทย เข้ามาเป็นรัฐบาล จะช่วยแก้ปัญหาต่างๆให้พี่น้องชาวใต้ เพราะเราเข้าใจทุกปัญหาของพี่น้องภาคใต้ ซึ่ง 8 ปีที่ผ่านมา เราต้องจมอยู่กับปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้พี่น้องประชาชน มีรายได้ไม่เพียงพอ จนบางคนต้องเป็นหนี้ โดยพรรคเพื่อไทย จะอาสาเข้ามาแก้ปัญหาให้ เพื่อทำให้พี่น้องประชาชน อยู่ดีกินดีขึ้น เพราะพรรคเพื่อไทย จะสร้างโอกาสให้พี่น้องประชาชน ทำมาหากินได้คล่องตัวขึ้น และไม่ต้องถูกแช่แข็งหลังมีการยึดอำนาจอีกต่อไป 

ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต กล่าวว่า ตนเป็นนักกฎหมาย อะไรที่มาพูดคุย ต้องสืบทราบก่อนว่า สามารถทำได้จริง เพราะนักกฎหมาย ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ดังนั้น ขอให้มั่นใจได้เลยว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทย สามารถทำได้จริง ซึ่งพี่น้องชาวใต้ ก็เป็นนักกฎหมายจำนวนมาก จึงทำให้มีความเข้าใจเหมือนกัน รวมถึงที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ ก็ได้ช่วยขับเคลื่อนโครงการดีๆให้กับพี่น้องชาวใต้มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการทุ่มเทปลดล็อกพืชกระท่อม

การผลักดันให้เป็นผลิตภัณฑ์ ส่งขายต่างประเทศ การส่งเสริมกีฬาชนวัว ที่ได้ให้กระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ภาคใต้รับฟังความคิดเห็นผู้เพาะเลี้ยงวัว เพื่อนำข้อมูลไปร่างกฎหมายส่งเสริมปศุสัตว์ ที่ขณะนี้ ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.แล้ว เมื่อวันที่ 21 ก.พ.66 ดังนั้น จะเห็นได้ว่า นายสมศักดิ์ ได้ให้ความสำคัญกับพี่น้องภาคใต้มาโดยตลอด และเป็นผู้ที่เข้าใจปัญหาอย่างแท้จริง เพราะได้ลงไปสัมผัสเองทุกอย่าง