ไม่พบผลการค้นหา
ความสัมพันธ์ที่ถูกเรียกว่า 'เสี่ยเลี้ยง' ได้รับความสนใจอย่างมากจากสังคมออนไลน์ ภายหลังเพจเฟซบุ๊กประเภทส่งเสริมการหารายได้พิเศษ นำเสนอวิธีการหาเสี่ยเลี้ยง โดยระบุขั้นตอนตั้งแต่การกำหนดเป้าหมาย ความต้องการอย่างชัดเจนของตนเองและฝ่ายตรงข้าม ทั้งเรื่องสถานะ อายุ ลักษณะ เพศ รวมถึงค่าตอบแทน การเข้าถึงเว็บไซต์ที่ใช้ในการหาเสี่ยเลี้ยง การไปในสถานที่ที่สามารถเจอกลุ่มเป้าหมายได้

"คุณต้องการให้เสี่ยทำอะไรให้บ้าง ผู้หญิงบางคนแค่ต้องการให้เสี่ยจ่ายค่าหอพักให้ เช่น ประมาณ 5,000 ถึง 10,000 บาท เพื่อแลกกับการเป็นคู่ควง เล่นสนุกกันบ้าง และนอนด้วยกันในบางครั้ง หรือคุณต้องการค่าตอบแทนส่วนใหญ่เป็นอาหารค่ำมื้อหรู การพาไปเที่ยวต่างประเทศ หรือการได้รับเชิญให้ไปร่วมงานแฟนซีและงานเลี้ยงมีระดับของอาเสี่ย” ข้อความส่วนหนึ่งที่เพจดังกล่าวระบุ

นอกจากนั้นข้อเขียนดังกล่าวยังแนะนำไปถึงเรื่องการตั้งเงื่อนไข จุดยืนของตนเองและฝ่ายตรงข้ามให้ชัดเจน ตลอดจนการดูแลรูปลักษณ์ บุคลิกภาพ และวิธีการดึงดูดให้ฝ่ายตรงข้ามหลงใหลอยู่เสมอ

โดยแนะนำว่า อย่าเกาะแกะมากเกินไปหรือทำราวกับว่า คุณเตรียมพร้อมที่จะย้ายสำมะโนครัวและเซ็นทะเบียนสมรสกับเขาทุกเมื่อ เนื่องจากเขาเลือกอยู่กับคุณเพราะรักสนุกและน่าตื่นเต้น ไม่ใช่เพราะคุณชอบงานบ้านงานเรือน รวมถึงการทำหน้าที่ศรีภรรยา ไม่เช่นนั้นเขาจะเบื่อและต้องการจบความสัมพันธ์นี้โดยเร็ว

เพจดังกล่าวบอกด้วยว่า การหาเสี่ยเลี้ยง เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสนุกกับชีวิต และได้เงินมาจับจ่ายใช้สอย ซึ่งจะช่วยให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นและตื่นเต้นมากกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาต้องจบความสัมพันธ์ จงชัดเจน เยือกเย็น อย่าเสียใจเกี่ยวกับการแยกทาง พยายามจบกันด้วยดี มันเป็นเรื่องปกติเพราะเสี่ยมักเบื่อง่าย

'วอยซ์ ออนไลน์' ได้ติดต่อไปยังแอดมินเพจที่แนะนำวิธีการหาเสี่ยเลี้ยงเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปรากฎการณ์ดังกล่าว แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับจากทางแอดมินเพจ

ขณะที่ 'รศ.ดร.ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์' นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงความสัมพันธ์ลักษณะดังกล่าวกับ 'วอยซ์ ออนไลน์' ว่าความสัมพันธ์ทุกรูปแบบล้วนแล้วแต่มีการแลกเปลี่ยน (exchange) ด้วยกันทั้งหมด ขึ้นอยู่กับว่าคุณแลกอะไรกับอะไรเท่านั้นเอง


"บางคนต้องการความรักความเข้าใจการดูแลเอาใจใส่ บางคนต้องการเซ็กส์ บางคนต้องการเงิน คุณก็ยอมอยู่ในความสัมพันธ์กับอีกฝ่าย เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์ทุกรูปแบบมันมีการแลกเปลี่ยน แถมยังมีเรื่องของการต่อรองด้วย เพียงแต่มีรูปแบบและลักษณะแตกต่างกันออกไป" รศ.ดร.ชลิดาภรณ์ กล่าว


ดังนั้นความสัมพันธ์ที่ถูกสังคมเรียกว่า 'เสี่ยเลี้ยง' ถูกจับเข้าไปรวมอยู่กับความสัมพันธ์ทางเพศที่มาพร้อมกับการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ หรือพูดง่ายๆ ว่า 'ร่วมเพศแลกเงิน' เป็นรูปแบบหนึ่งของการขายบริการ ซึ่งสังคมมองความความสัมพันธ์นี้ในเชิงลบ

"มีคนต้องการหาประโยชน์ทางเศรษฐกิจด้วยความสัมพันธ์ลักษณะนี้ แม้คิดว่ามีคนจำนวนมากรับไม่ได้ แต่ดิฉันยืนยันว่าไม่ได้แตกต่างจากความสัมพันธ์ลักษณะอื่นๆ เพราะมันมีการแลกเปลี่ยนทุกรูปแบบ เวลาเขาให้คุณเลี้ยงข้าว พาไปออกเดท ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมให้และยอมร่วมเพศกับคุณ ถามว่ามันต่างกันตรงไหน เพียงแต่ว่ารูปแบบทั่วๆ ไป มันซับซ้อนและมีอะไรเคลือบอยู่หลายอย่างทำให้คุณไม่เห็นแง่มุมการแลกเปลี่ยน"

สิ่งที่นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ชวนสังคมตั้งคำถาม อะไรคือต้นเหตุของความสัมพันธ์ซ้อนและความต้องการแลกเปลี่ยนที่มากกว่าการประณามผู้อื่นที่เลือกความสัมพันธ์ลักษณะนี้

เนื่องจากการมีความสัมพันธ์ซ้อนแสดงให้เห็นว่าคนจำนวนมาก ไม่สามารถอยู่ในความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่งที่ยืนยาวได้

"สังคมและคนหลายกลุ่มมักบังคับในลักษณะเดียวว่า "ต้องอยู่ด้วยกัน" แต่กลับไม่เคยตั้งคำถามว่า ในสภาพความสัมพันธ์ที่แท้จริงนั้นมันมีความตึงเครียด มีภาระหน้าที่ทางสังคม ทางอารมณ์ และมีอะไรบ้างที่ทำให้ชีวิตคู่นั้นอยู่ด้วยกันลำบาก จนกระทั่งบางคนออกไปหาความพึงใจพอรูปแบบอื่น"

ในเมื่อมีความต้องการจากคนที่แต่งงานแล้วเกิดรู้สึกอึดอัด มีปัญหา จึงกลายเป็นช่องทางสำหรับคนที่ยินดีจะขายหรือแลกเปลี่ยน ซึ่งสำหรับความความสัมพันธ์ในลักษณะร่วมเพศแลกเงินหากไม่ใช่ 'เสี่ยเลี้ยง' แต่เป็นฝ่ายหญิงเลี้ยงเด็กชาย หรือเกิดในกลุ่มคนชอบเพศสภาพเดียวกัน คาดว่าจะถูกสังคมประนามมากกว่า

สำหรับผู้ที่คิดจะเข้าไปอยู่ในสภาพความสัมพันธ์ลักษณะนี้ รศ.ดร.ชลิดาภรณ์ บอกว่า ควรทำความเข้าใจและยอมรับกับการถูกประนามจากคนจำนวนมากที่เห็นว่าความสัมพันธ์นี้ผิดกติกาเรื่องเพศในสังคม นอกจากนั้นยังมองว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนที่จะอยู่ในความสัมพันธ์ซ้อนได้อย่างไม่คาดหวัง หรือเรียกร้องตามกรอบความสัมพันธ์ปกติทั่วไป เมื่อผ่านไปสักช่วงเวลาหนึ่ง 


"คุณต้องไม่คาดหวัง ไม่ประพฤติตัวแบบที่แฟน สามีภรรยา เขาคาดหวังกัน ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วคนทำไม่ค่อยได้ เมื่อคุณอยู่ในความสัมพันธ์ซ้อน พักหนึ่งก็เริ่มจะเรียกร้อง ตามกรอบที่คุณคุ้นเคย เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายและถ้าอยากจะทำต้องมั่นใจว่าควบคุมตัวเองไหว" นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ กล่าว


ทั้งนี้ เมื่อลองค้นหาข้อมูลในสังคมออนไลน์ พบว่ามีหลายเว็บไซต์เป็นช่องทางสำหรับผู้ที่ต้องการหาเสี่ยเลี้ยง โดยหญิงสาวจำนวนมากจะโพสต์ภาพ เขียนข้อความโปรโมทและให้รายละเอียดส่วนตัวของตนเอง พร้อมแสดงความต้องการ เช่น มีปัญหาทางการเงิน หาคนดูแลเป็นเวลา 6 เดือน เดือนละ 20,000 บาท สามารถพบเจอได้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง หรือ หาคนอายุไม่เกิน 45 ปี ดูแลระยะยาวเดือนละ 15,000 บาท คบแบบลับหรือเปิดเผยแล้วแต่ผู้ดูแล ไม่เคยผ่านการมีลูกมาก่อน เป็นต้น

สำหรับในด้านกฎหมายหากเป็นกรณีที่ฝ่ายชายแต่งงานจดทะเบียนสมรสแล้ว ปรากฏว่า ไปมีความสัมพันธ์เลี้ยงดูผู้หญิงคนอื่น ฝ่ายหญิงสามารถเอาไปเป็นเหตุฟ้องหย่าได้ ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1516 ที่ระบุว่า

"สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้"

โดยมีสิทธิฟ้องตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ตามมาตรา 1523 เพื่อเรียกค่าเสียหายจากชายและหญิง 

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดขึ้นอยู่กับหลักฐานและศาลในการพิจารณาความสัมพันธ์เชิงชู้สาวลักลอบคบซ้อน